แผนร้ายพิชิตใจพี่ชายตัวแสบ - อ้นเชอรีนTS9 (6) 100% - แผนร้ายพิชิตใจพี่ชายตัวแสบ - อ้นเชอรีนTS9 (6) 100% นิยาย แผนร้ายพิชิตใจพี่ชายตัวแสบ - อ้นเชอรีนTS9 (6) 100% : Dek-D.com - Writer

    แผนร้ายพิชิตใจพี่ชายตัวแสบ - อ้นเชอรีนTS9 (6) 100%

    การแอบรักคนคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะยิ่งเป็นเพื่อนพี่ชายด้วย แล้วฉันจะสมหวังได้ยังไงนะเมื่อพี่ฉันหวงฉันขนาดนี้แถมคนที่ฉันแอบชอบยังเฉยชาใส่ฉันอีก

    ผู้เข้าชมรวม

    5,737

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    5.73K

    ความคิดเห็น


    171

    คนติดตาม


    28
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 มิ.ย. 56 / 20:29 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    มาแล้ววตามคำเรียกร้องงงงงงง จัดไป 100% เลยจ้าาา ตอนนี้ใครอายุต่ำกว่า 15 ห้ามอ่านน้าาาไรต์แอบหื่นเบาๆๆ 55555 พี่อ้นเราชักยังไงๆแล้วเนี่ยะ อิอิ ติดตามกันต่อไป    อะอะ แอดมีเรื่องให้ช่วยย ช่วยกันนห่อยนะค่ะ https://www.facebook.com/kstoryshop?fref=ts&refid=12 ฝากกดไลค์เพจ แล้วไลค์คอมเม้น may momomayลิงค์นึ้หน่อยนพะคะhttps://www.facebook.com/photo.php?fbid=451552488255101&set=a.3990&refid=12


    ขอบคุณธีมสวยๆๆค้าา a href="http://my.dek-d.com/knotnicenety/writer/view.php?id=923167" target="BB">✱ Bachelor
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

      ตกเย็น

      ฉันต้องกลับบ้านเองด้วยเหตุผลที่ว่า ฉันไม่อยากเจอหน้าพี่อ้นและพี่แบมบี้ อ้า แต่สุดท้ายยังไงฉันก็ต้องนอนคอนโดเดียวกับเขาอยู่แล้วนิ

      “แกแน่ใจนะว่าจะกลับบ้านเอง”ดีถามฉันหลังจากออกมาส่งฉันที่ป้ายรถเมล์

      “อืม แกกลับบ้านดีๆละดี ถ้าพี่ดิวทำอะไรก็บอกนะ”ฉันบอกเพื่อนตัวเองทันทีเมื่อรู้ว่าพี่ชายฉันกำลังรุกหน้าจีบเพื่อนฉันอยู่ ไปเร็วกว่าที่ฉันคิดอีก

      “อืม ฉันกับพี่ดิวนะช่างเถอะ แกนั้นแหละ อย่าร้องไห้อีกนะ”

      “อืม แกเห็นฉันเป็นเด็กขี้แงหรือไง”ฉันบอกเพื่อนตัวเองขำๆ

      “จ้า ฉันรู้ว่าแกนะไม่ใช่เด็กขี้แงหรอกแต่แกนะมันพวกร้องไห้หนักมากกว่า”ดีแซวฉันยิ้มๆ ฉันหันไปหน้าบึ้งใส่เพื่อน ดีก็เลยได้แต่ยิ้มๆแล้วก็เดินกลับไป

      “เฮ้อ”ฉันถอนหายใจออกมาเมื่อเพื่อเดินกลับไปแล้ว ฉันนั่งลงตรงที่นั่งก่อนจะนั่งรอรถ ฉันไม่อยากกลับไปที่คอนโดนั้นเลยฉันกลัวว่าพี่อ้นจะพาพี่แบมบี้มาอยู่ด้วยแค่นี้ฉันก็ช้ำตายอยู่แล้ว แถมยังมีเรื่องวุ่นวายที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรอยู่เลย ทุกคนเหมือนมีอะไรปิดบังฉันรวมกระทั่งแม่ด้วย

      “อ้าว เชอรีน”เสียงหนึ่งทักขึ้นฉันจึงหลุดจากห้วงความคิดของตัวเองแล้วเงยหน้ามองก็พบกับคนที่รอยยิ้มสว่างสดใสทันที

      “คริส”

      “จะกลับบ้านหรอครับ”เขาถามฉันจึงพยักหน้าตอบ

      “ให้ผมนั่งรอเป็นเพื่อนไหม คุณกลับบ้านทางไหนละ”

      “ฉันจะไปที่คอนโดใกล้ๆมหาลัยเนี่ยะแหละ”ฉันตอบก่อนจะส่งยิ้มไปให้เขา คริสนั่งลงข้างๆฉันก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มที่สุดใส

      “ผมก็อยู่คอนโดนั้นนะ ทำไมเราไม่เคยเจอกันเลยหละ”

      “ฉันพึ่งมาอยู่กับ.....พี่นะ”ฉันตอบพร้อมกับนึกไปถึงพี่อ้น อยู่ดีๆหัวใจของฉันก็เต้นเหมือนรู้สึกกำลังจะตายทันที

      “อ้าวหรอ นั้นเราสองคนก็กลับบ้านพร้อมกันได้นะ ผู้หญิงกลับคนเดียวมันไม่ดีหรอก”คริสบอกฉัน

      “ขอบใจนะที่นายเป็นห่วง”ฉันยิ้มตอบ

      บรื้น

      เสียงรถยนต์เร่งเครื่องดังขึ้น ฉันละสายตาจากคริสทันทีก่อนจะหันไปเห็นรถที่คุ้นตากำลังเร่งเครื่องอยู่

      “พะ พี่ อ้น”ฉันพูดตะกุกตะกักออกไป ก่อนจะมองเลยเข้าไปในรถเห็นพี่แบมบี้นั่งอยู่ข้างพี่อ้น แล้วกำลังมองฉันอยู่ส่วนพี่อ้นก้มองฉันก่อนจะเบือนหน้าหนีไป

      “นั้นใช่พี่เชอรีนรึเปล่า”คริสถามขึ้น ฉันจึงพยักหน้าลงก่อนจะมองพี่อ้นค้างเอาไว้  ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะโดนอะไรซักอย่างแน่นอน

      “ทำไมเชอรีนไม่กลับบ้านกับพี่ละครับ”

      “พี่เขามากับแฟนคะ”ฉันตอบก่อนจะเบือนหน้าหนีเมื่อรู้สึกว่าอยู่ดีๆตัวเองก็กำลังจะร้องไห้

      “เชอรีน”คริสเรียกฉันเบาๆ ฉันหันหน้าหนีก่อนจะหลบสายตาจากพี่อ้นและคริส

      บรื้น

      เสียงรถยนต์เร่งเครื่องอีกครั้ง ฉันหันกลับไปมองเมื่อรู้ว่าน้ำตาตัวเองเริ่มไม่ไหลแล้ว พี่อ้นคงกำลังรอฉันให้ขึ้นรถไปกับเขา แต่ฉันไม่อยากเห็นภาพบาดตาที่มันทำร้ายหัวใจฉัน ฉันลุกขึ้นช้าๆก่อนจะจับมือคริสแล้วให้เขาเดินตามฉันไป

      “เชอรีนจะไปไหน”คริสถามทันทีก่อนจะฝืนตัวเอาไว้

      “เชอรีนอยากเดินกลับ  คริสจะไปกับเชอรีนไหม”ฉันถามเสียงสั่นเมื่อหันไปเห็นว่าตอนนี้บนใบหน้าพี่อ้นขมวดคิ้วมากแค่ไหน ฉันอยากนั่งรถคันเดียวกับเขาแต่ไม่อยากนั่งรถคันเดียวกับผู้หญิงของเขา ฉันมันเลวเกินไปไหม

      “ไปสิ เชอรีนเป็นอะไรรึเปล่า”คริสถาม

      “เปล่า เราเดินไปกันเถอะนะ”ฉันบอกช้าๆก่อนจะเดินนำเขาไป คริสเดินตามฉันมาช้าๆเหมือนรู้ว่าฉันกำลังรู้สึกไม่ดี

      บรื้น

      บรื้น

      เสียงรถยนต์ยังคงเร่งต่อไปแต่ฉันไม่สนใจเสียงมัน ฉันเดินไปอย่างช้าๆด้วยหัวใจที่มันทรมานมากเหลือเกิน ฉันอยากเป็นเจ้าของเขาคนเดียวไม่อยากให้ใครครอบครองเขานอกจากฉันเพียงคนเดียว แต่มันจะมีวันนั้นของฉันบ้างไหม

      เผาะ

      ไม่รู้เมื่อไหร่ที่น้ำตาของฉันมันไหลลงมา ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันตัวกำลังสั่น และเสียงสะอื้นดังออกมา

      “เชอรีน”คริสเรียกฉันแผ่วเบาราวกับปลอบฉัน เขากำลังรู้เรื่องนั้นเรื่องที่ฉัน แอบรักเขาผู้ชายที่ใจร้ายสำหรับฉัน

      “ฮึก อย่าสนใจเชอรีนนะ คริสอยู่เฉยๆนะ”ฉันบอกก่อนจะปาดน้ำตาตัวเองเบาๆ ตัวเองบอกดีไปว่าจะไม่ร้องไห้แต่เพียงเห็นเขาอยู่ด้วยกันฉันก็เหมือนตายทั้งเป็นแล้ว การกระทำเมื่อเช้าที่เขาทำมันทำลายล้างไปด้วยผู้หญิงคนนั้นที่พี่อ้นแสดงเป็นเจ้าของแล้ว

      “ฮึก”

      “......”

      ฉันไม่รู้ว่าเราสองคนเดินกันมานานเท่าไหร่ฉันไม่รู้สึกเมื่อยขาเลยซักนิด แต่มันรู้สึกปวดหนึบที่หัวใจมากกว่า ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากเหลือเกินฉันอยากจะหนีออกมาจากตรงนั้นเหลือเกิน ที่ที่ฉันหลงทางมันอยู่ตั้งสามปี

      “ฮึก”

      เปรี้ยง

      อยู่ดีๆฟ้าฝนก็เป็นใจมันเทกระหน่ำลงมา ซ่อนน้ำตาของฉันเอาไว้

      “เชอรีน รีบเถอะนะครับฝนตกแล้ว”คริสบอกก่อนจะจับมือฉัน ฉันมองหน้าคริส  คริสมองฉันด้วยความอึ้งเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางๆให้ฉัน

      “รีบเถอะนะครับ เดี๋ยวจะเป็นอะไรเอา “คริสบอกก่อนจูงมือฉันพร้อมกับกึ่งวิ่งให้เขาที่หลบฝน แต่ด้วยความเหม่อลอยของฉันมันทำให้ฉัน

      ฟุบ

      “เชอรีน เจ็บมากไหม”คริสถามทันทีที่เห็นฉันล้มลงไป

      “ไม่ คริส เชอรีนไม่เจ็บฉันบอกเสียงสั่น แต่คริสคงรู้ว่าฉันเจ็บตรงไหนมากกว่าจึงได้แต่จับแผลที่หัวเข่าของฉันที่ตอนนี้มีเลือดไหลออกมามากมาย

      “ไม่เจ็บนะครับ รีบกลับกันเถอะ”เขาบอกก่อนจะพยุงฉันลุกขึ้น ฉันเซไปเล็กน้อยแต่ก็พยุงตัวเองขึ้นมา

      “ขอบคุณนะคริส”ฉันบอก

      “ไม่เป็นไรครับ เราเป็นเพื่อนกัน”คริสตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสของเขา

      “.....”ฉันมองหน้าคริสนิ่ง คริสก็ยังส่งยิ้มมาให้ฉันก่อนจะค่อยๆพยุงตัวฉันจนถึงคอนโด

      “ถึงแล้ว ขึ้นไว้นะครับ”คริสถามทันทีที่อยู่หน้าลิฟต์

      “ไหวสิ “ฉันบอกพร้อมกับค่อยๆก้าวเข้าลิฟต์ไป ส่วนคริสก็มองตามก่อนจะเดินเข้ามาแล้วกดชั้นที่เขาอยู่

      “มาหาผมได้นะ ผมอยู่ห้อง 246 “เขาบอกก่อนจะเดินออกไปเมื่อถึงชั้นที่อยู่ของห้องเขาแล้ว ฉันพิงพนังลิฟต์ทันทีอย่างเหนื่อยใจ

      กิ๊ง

      พอลิฟต์มาถึงฉันก็เดินออกมาช้าและค่อยๆพยุงตัวเอง ตอนนี้บาดแผลที่ฉันได้รับมันกำลังส่งผลมาหาฉันแล้ว แล้วรู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะเป็นไข้ด้วย

      ก๊อก ๆ

      ฉันเคาะประตูห้อง สักพักพี่อ้นก็เปิดออกมาก่อนจะตกใจกับสภาพของฉัน แต่แล้วก็ถามหน้านิ่งตามสไตล์เขาแล้วก็หลีกทางให้ฉันเข้าห้อง

      “ใครมาส่ง”เขาถามเสียงเรียบแต่ฉันรู้สึกว่ามันเป็นเสียงที่อันตรายพอสมควร

      “คริส”ฉันตอบเบาๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา

      “พึ่งรู้จักกันทำไมต้องให้เขามาส่งถึงห้องด้วย”พี่อ้นถามเสียงเรียบต่อแต่ฉันรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังโกรธ  ดูได้จากแววตาอันวาวโรจน์ของเขา

      “คริสอยู่ที่นี้ เราเลยเดินกลับมาด้วยกัน”ฉันตอบกลับเสียงเรียบก่อนจะดึงกระโปรงตัวเองให้คลุมเข่า เพื่อไม่ให้พี่อ้นเห็นแผลนั่น

      “แค่นี้เธอก็ให้เขามาส่งที่ห้องแล้วหรอ เธอเห็นฉันแล้วทำไมถึงไม่ขึ้นรถมา”

      “อยากลอง เดิน ซึ่งก็ไม่ไกล”

      “เชอรีน เธอกำลังทำให้ฉันโมโหนะ”พี่อ้นเริ่มขึ้นเสียง ฉันมองหน้าเขาก่อนจะหลบสายตาของเขาเมื่อรู้สึกว่าน้ำตาที่หยุดไหลเมื่อกี้กำลังไหลออกมา

      “พี่ไม่ต้องกังวลหรอก ไม่ต้องกลัวว่าพี่ดิวจะมาทำร้ายพี่ถ้าหากน้องเขาเป็นอะไร”ฉันพูดประชดใส่ อย่างไม่ได้ตั้งใจ พี่อ้นจ้องหน้าฉันทันที

      “เชอรีน!!!

      “พี่หิวไหม ฉันจะทำอะไรให้กิน”ฉันรีบบอกปัด

      “พี่กำลังคุยกับเธอเกี่ยวกับไอ้หน้าอ่อนนั้นอยู่นะ”

      “เขาชื่อคริสคะ”ฉันตอบก่อนจะเบือนหน้าหนีเมื่อเห็นว่าแววตาของพี่อ้นกำลังลุกโชน

      “เฮ้อ เวรเอ๋ย”พี่อ้นสถบออกมา

      “พี่จะกินอะไรไหม เชอรีนจะไปทำให้กิน”ฉันถามอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นแล้วเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะล้ม

      “เธอ!!!เป็นอะไร”พี่อ้นถามเสียงหลงพร้อมกับประคองร่างฉันเอาไว้

      “เปล่า แล้วพี่แบมบี้ละ”ฉันถาม แต่คำถามนั้นมันกำลังกรีดแทงหัวใจของฉันช้าๆ

      “ไปส่งมาแล้ว”เขาตอบเสียงเรียบก่อนจะมองหน้าฉัน

      “คะ พี่ดูรักกันดีนะคะ”ฉันพูดก่อนจะดันพี่อ้นออกแล้วก็ถอยหลังจะเดินไปแต่อยู่ดีๆพี่อ้นก็จับตัวฉันเอาไว้

      “เธอมีอะไรจะบอกกับฉันรึเปล่า”พี่อ้นถามพลางสบตากับฉัน ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะร้องไห้ มันกำลังจะร้องไห้แล้วจริงๆ

      “ไม่มีนิคะ”ฉันเลี่ยงตอบก่อนจะเบือนสายตาหนี

      “พี่ว่าเธอมีแน่นอน แต่เธอไม่พูดออกมาซักที ทำไมเธอถึงเลือกที่จะไม่พูด กลัวอะไรอยู่หรือไง”พี่อ้นถามพร้อมกับจับหน้าฉันให้มาจ้องเขาเหมือนเดิม ฉันรู้สึกใจเต้นแรงมากเมื่ออยู่ใกล้เขาแบบนี้ ให้ตายซิ ฉันไม่มีทางไปแย่งเขามาจากพี่แบมบี้หรอก ฉันไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน

      “ไม่มีจริงๆคะ”ฉันตอบ

      “เชอรีน!!!”พี่อ้นเริ่มขึ้นเสียงก่อนจะบีบต้นแขนฉันแน่น

      “ปล่อยเถอะคะ เดี่ยวเชอรีนจะไปทำอาหารให้”ฉันบอกก่อนจะดันตัวเขาออกอีกครั้ง พี่อ้นขืนเล็กน้อยแต่ก็ยอมปล่อยฉัน

      ฟุบ

      แต่ยังไม่ทันได้เดินหนีเขาก็อุ้มฉันขึ้นทันที

      “พี่จะทำอะไร!!!”ฉันถามด้วยใบหน้าแตกตื่น พี่อ้นอุ้มฉันลอยขึ้นทันทีก่อนจะเดินพาร่างฉันไปยังห้องนอน

      “อยู่เฉยๆ”

      “แล้วพี่จะทำอะไร”ฉันถามเสียงสั่น ก่อนจะจ้องหน้าเขา พี่อ้นมองหน้าฉันเล็กน้อยก่อนจะพาตัวเองเดินเข้าห้องนอนไปก่อนจะวางฉันลงบนเตียงช้าๆ

      “อยู่เฉยๆ เดี๋ยวพี่มา”พี่อ้นพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไปฉันมองตามไปอย่างงงๆก่อนที่จะกระจ่างเมื่อพี่อ้นเดินกลับมาพร้อมกับกล่องยา

      “ล้มทำไมไม่บอก”เขาถามฉันเสียงเรียบก่อนจะนั่งลงบนเตียงแล้วดึงขาฉันไป

      “มะ ไม่ ต้องก็ได้”ฉันรีบหดขาหนีทันที พี่อ้นมองกลับมาด้วยสายตาไร้อารมณ์ก่อนจะดึงขาฉันกลับไป

      “อยู่เฉยๆ พี่จะทำแผลให้”พี่อ้นบอกก่อนจะจับขาฉันเอาไว้แน่น ฉันมองหน้าเขาที่ตอนนี้กำลังก้มทำแผลที่หัวเข่าให้ฉันอย่างแผ่วเบา

      ตึกตัก ตึกตัก

      เสียงหัวใจของฉันมันกำลังเต้นดังออกมา มันเต้นแรงมากจริงๆ

      “ไม่เจ็บใช่ไหม”พี่อ้นถามขึ้นมาทำให้ฉันต้องหลุดจากห้วงความคิดของตนเองก่อนจะมองหน้าพี่เขา

      “มะ ไม่คะ”

      “อืม ทำไมเธอไม่บอกว่ามีแผลมาถ้าพี่ไม่เห็นเลือดพี่จะรู้ไหม”พี่อ้นถามเสียงเย็นจนฉันรู้สึกแปลกๆ

      “ก็ มะ ไม่ได้เป็นอะไรมากนิคะ”ฉันตอบพี่อ้นที่กำลังก้มลงทำแผลอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมาทันที

      “เฮ้อ ให้ตายสิเชอรีน”พี่อ้นสถบออกมาเยาๆก่อนจะก้มลงไปทำแผลให้ฉันต่อ เมื่อพี่อ้นปอดปาสเตอร์ยาเสร็จฉันก็รีบหดขากลับมาทันที

      “ขอบคุณพี่มากนะค่ะ”ฉันตอบก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนแต่ยังไม่ทันได้ลุกร่างกายที่แสนอ่อนแอของฉันก็ทรุดขึ้นมาทันที

      “เชอรีน”พี่อ้นประคองร่างฉันไว้ทันที

      “เอ่อ เชอรีนไม่เป็นอะไรพี่ ปล่อยเถอะคะ”ฉันรีบพูดก่อนจะค่อยๆดันร่างพี่อ้นออก

      “เฮ้อ ให้ตายซิ เธอตัวร้อนรู้รึเปล่า”พี่อ้นพูดก่อนจะจับมือฉันมาทาบที่ใบหน้าของฉันเอง

      “เดี๋ยวกินยาก็คงหายแหละคะ”ฉันรีบบอกก่อนจะค่อยดันพี่อ้นออกจากตัวอีกรอบ แต่พี่อ้นก็ไม่ยอมปล่อยฉันซักที

      “เฮ้อ “พี่อ้นถอนหายใจออกมาก่อนจะค่อยๆจับฉันอุ้มขึ้นอีกรอบ

      “พะ พี่จะทำอะไรอีกเนี่ยะ”ฉันร้องเสียงหลงเมื่อพี่อ้นอุ้มฉันวางลงบนเตียงอีกรอบ

      “นอนซะ เดี๋ยวพี่ไปจัดการเรื่องยาให้”พี่อ้นพูดเสร็จสรรพก็เดินออกจากห้องไปทันที ทำให้ฉันต้องลุกขึ้นมานั่งช้าๆแล้วมองจามเขาไป

      “พี่อย่าใจดีได้ไหม ฉันกำลังจะตัดใจจากพี่นะ”ฉันบอกเบาๆไล่ตามหลังเขาไป

      “เฮ้อ ให้ตายสิเชอรีน เธอจะหลุดพ้นจากเรื่องบ้าๆนี้ยังไงกันนะ”ฉันบ่นกับตัวเองก่อนจะนอนลงเนื่องจากรู้สึกว่าตัวเองปวดหัวมากเหลือเกินในตอนนี้

      “ปวดหัวมากไหม”เสียงของพี่อ้นดังขึ้นทำให้ฉันลืมตาขึ้นมา แล้วก็ค่อยๆลุกขึ้น

      “ไม่เท่าไหร่คะ”ฉันบอกทั้งๆที่จริงตอนนี้ฉันรู้สึกปวดมากเลยต่างหาก

      “ตากฝนมาเท่าไหร่เนี่ยะ”พี่อ้นบอกเบาๆก่อนจะนั่งลงข้างๆฉัน แล้วก็หยิบยาและแก้วน้ำยื่นมาให้ฉัน

      “ขอบคุณนะคะ”ฉันรับมาก่อนจะกลืนยาแล้วก็น้ำตามลงไป

      “นอนพักซะนะ  คืนนี้เธอไม่ต้องดูแลฉันหรอก”พี่อ้นบอกก่อนจะเดินออกจากห้องไป ฉันมองตามไปก่อนจะล้มลงตัวนอน รู้สึกปวดหัวจิ๊ดๆไปเลย ให้ตายซิ

      ผ่านไป ครึ่งชั่วโมง

      เพล้ง

      ฉันต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงอะไรตกลงลงมาแตกหลังจากที่ตัวเองเผลอหลับไป

      “ฉันทำให้เธอตื่นหรอ”พี่อ้นถามขึ้นพร้อมกับเดินออกมาจากห้องน้ำ ฉันมองพี่อ้นพร้อมกับรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาทันที เมื่อพี่อ้นนุ่งผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียวอยู่

      “ปะ เปล่าคะ”ฉันรีบเลี่ยงสายตาทันที

      “ขอโทษละกันนะ เธอนอนต่อเถอะ”พี่อ้นบอกก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปอีกรอบ

      กึก เพล้ง

      “อะไรว่ะเนี่ยะ”เสียงของพี่อ้นสถบออกมาดัง ฉันจึงมองเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะใจกล้าลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที

      “พี่ ทำอะไร”ฉันถามทันทีเมื่อเดินถึงห้องน้ำรู้สึกว่าตัวเองจะเริ่มเซเล็กน้อยแล้วนะ

      “ฉันจะโกนหนวดนะ แต่พอดีมือที่เป็นแผลเมื่อวานมันคงช้ำมากขึ้นมั้ง”พี่อ้นบอกปัดๆก่อนจะพยายามหยิบที่โกนหนวดอีกครั้ง

      เพล้ง

      “โอ๊ย”

      “พี่อ้น !!!”ฉันตกใจสุดขีด ก่อนจะถลาไปหาพี่เขา

      “ให้ตายซิ”พี่อ้นสถบออกมา

      “พี่ไปทำอะไรกับมันมา ทำไมอยู่ดีๆมันถึงช้ำอย่างนี้”ฉันรีบถามทันทีเมื่อเห็นว่ารอยช้ำเมื่อวานบนมือเขามันขยายมากขึ้นเหมือนไปกระทบกระแทกอะไรมา

      “ช่างเถอะ”พี่อ้นบอกปัดก่อนจะดึงมืออกมาจากมือฉัน แต่ฉันก็กลับไปดึงมือนั้นเอาไว้อีกรอบ

      “อะไรของเธอ”

      “พี่ไปทำอะไรกับมันมาอีก มันช้ำมากกว่าเดิมพี่เห็นไหม”ฉันเริ่มแวดใส่

      “ก็บอกแล้วไงว่าช่างมันเถอะ พี่จะโกนหนวดเธอไปพักได้แล้ว”พี่อ้นบอกเสียงเด็ดขาดก่อนจะพยายามหยิบที่โกนหนวดอีกครั้ง

      เคร้ง

      “พอเถอะคะ เดี๋ยวเชอรีนโกนให้ ไม่น่าเป็นข้างขวาเลย”ฉันบ่นเบาๆก่อนจะหยิบที่โกนหนวดจากพี่อ้นมา แล้วก็ดันให้เขานั่งบนอ่างอาบน้ำ

      “ไม่ต้องก็ได้ เธอไม่สบายอยู่”พี่อ้นค้านแต่ฉันก็ยังดื้อดัน

      “อยู่เฉยๆนะคะ เชอรีนจะโกนหนวดให้”ฉันบอกก่อนจะไปหยิบครีมโกนหนวดออกมาแล้วแต้มไปยังบนใบหน้าของพี่อ้น

      “.....”

      “.....”

      เราสองคนมองหน้ากันอยู่ดีๆหัวใจของฉันมันก็เต้นแรงมาก ฉันต้องหลบสายตาพี่อ้นทันที

      “หลบหน้าพี่ทำไม”พี่อ้นพูดขึ้นมาทำลายความเงียบ ฉันจึงเงยหน้ามองพี่เขาช้าๆก่อนจะส่งยิ้มที่รู้สึกแปลกๆไปให้

      “เปล่าคะ อยู่เฉยๆนะคะเดี๋ยวเชอรีนโกนให้”ฉันบอกพี่อ้นก่อนจะจับหน้าพี่เขาเบาๆ แล้วก็ใช้มีดโกนนวดโกนลงไปบนไรหนวดของพี่อ้นช้าๆ

      ตึกตัก ตึกตัก

      เสียงหัวใจของฉันและพี่อ้นต่างดังขึ้นมาอย่างไม่ได้นัดหมาย พี่อ้นจ้องหน้าฉันนิ่งก่อนที่มือของพี่เขาที่อยู่เฉยๆกำลังยกขึ้นและลูบหน้าฉันเบาๆ ฉันรู้สึกตัวเกร็งไปหมด อัตราการเต้นหัวใจของฉันยิ่งเต้นรัวเมื่อพี่อ้นค่อยๆลูบหน้าฉันช้าๆ

      “ตัวหายร้อนแล้วนิ”เขาบอกเบาๆ ฉันจึงได้แต่พยักหน้าลงไม่กล้าพูดอะไรออก

      “.....”

      “เจ็บมากไหม ที่ล้ม”

      “มะ ไม่คะ”ฉันตอบเสียงสั่นเมื่อรู้สึกว่าอารมณ์ของตัวฉันเองกำลังจะเตลิด

      “อืม “พี่อ้นตอบกลับมาสั้นๆแต่มือของเขาที่ออยู่บนใบหน้าฉันกลับเลื่อนลงมาโอบกอดเอวฉันเอาไว้ ฉันตกใจเล็กน้อยแต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไรฉันไม่ขัดขืนพี่อ้นเลย

      “หนวดยาวเร็วจังนะคะ”ฉันถามทำลายความเงียบ

      “เธอรู้ได้ไงว่าหนวดพี่ยาวเร็ว สังเกตพี่เลยหรือไง”

      คำตอบของพี่อ้นทำเอาหน้าฉันร้อนวูบ กริ๊ดฉันเผลอพูดอะไรออกไปเนี่ยะ

      “หึ ไม่ร้อนหรอ เธอเหงื่อแตกพลั่กเลยนะ”พี่อ้นบอกขำๆก่อนจะโอบเอวฉันให้ขยับมาใกล้ขึ้น

      “ไม่คะ”ฉันก้มหน้าตอบก่อนจะจ้องแต่ที่โกนหนวดแล้วโกนหนวดให้พี่เขาอย่างเดียว หัวใจจะออกมาเต้นนอกอกแล้วนี้มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยะ ทำไมบรรยากาศมันพาไปอย่างนี้

      “.....”

      “....”

      เงียบมาก เงียบกินไปแล้ว บรรยากาศอย่างนี้มันช่าง อ้ากกก ฉันกำลังจะเป็นบ้า

      “เชอรีน”พี่อ้นเรียกฉันเบาๆทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปจ้องหน้าพี่เขา

      “คะ”

      “เธอรู้สึกว่าการทำอย่างนี้มันเหมือนคนเป็นแฟนกันทำรึเปล่า”

      ฉ่า

      หน้าฉันแดงมากเลยละตอนนี้ ไม่งั้นฉันไม่รู้สึกร้อนเป็นไฟอย่างนี้ อ้าก

      “อะ เอ่อ”

      พูดอะไรไม่ออกจริงๆตอนนี้ พี่อ้นบ้าเอ๊ย ทำฉันจะตายแล้ว

      “หึ”พี่อ้นยิ้มขำๆก่อนจะโอบตัวฉันให้แน่นขึ้น แล้วในที่สุด ฉันก็ลงไปนั่งตักเขาจนได้

      ฉ่า

      ร้อนไปหมดแล้วกริ๊ด หัวใจฉันมันเต้นแรงมากเกินไปแล้ว ผู้ชายคนนี้ทำฉันคลั่งตายแล้ว

      “เป็นอะไรไป ไม่โกนหนวดพี่ต่อละ”พี่อ้นกระซิบถามเบาๆ ฉันที่นั่งก้มหน้าอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็ปะทะกับสายตาที่ทำให้ฉันแทบละลายไปอยู่ตรงนั้น

      “.....”

      “ให้ตายซิ”พี่อ้นพึมพำเบาๆข้างหูฉันก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่อยู่ตรงนั้นมาเช็ดครีมโกนหนวดออกไปหมด ก่อนจะกระชับอ้อมกอดฉันให้แน่นขึ้น ฉันรู้สึกว่าในห้องน้ำห้องนี้มันร้อนมากขึ้นกว่าเดิมพันเท่า

      “มะ ไม่โกนแล้วหรอคะ”ฉันถามออกไปสั่นๆ พี่อ้นมองหน้าก่อนจะยิ้มให้เล็กน้อยแล้วก็เลื่อนหน้ามาใกล้ฉันมากขึ้น

      จุ๊บ

      ฉันแทบสิ้นสติเมื่อพี่อ้นหอมแก้มฉันเบาๆ ฉันรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที

      “พะ พี่อ้น”ฉันเรียกพี่เขาช้าๆ พี่อ้นมองหน้าเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มที่ทำให้ฉันเป็นเหมือนแมวน้อยเชื่องๆทันที

      “ฟังพี่นะ”

      “.....”

      “ไม่ว่าต่อจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น”

      “.....”

      “พี่อยากขอเธอ”

      “.....”

      “อย่าพึ่งมอบหัวใจให้ใคร”

      “...”

      “มอบให้เพียงแค่คนที่อยู่ในหัวใจของเธอตอนนี้คนเดียว”

      “....”

      “อย่าพึ่งไขว้เขว”

      “....”

      “เพราะบางครั้ง คนคนนั้น”

      “.....”

      “กำลังทำสิ่งที่ดี”

      “....”

      “ที่สุดในชีวิตให้เธอ”

      “....”

      “ขอให้เธออย่าพึ่งเปลี่ยนใจ”

      “...”

      “เพราะถ้าหากเธอเปลี่ยนใจไป”

      “....”

      “เขาคนนั้นก็เจ็บแทบปางตาย”

      “....”

      “เพราะตอนนี้เขากำลังทำให้เธอและเขามีความสุขที่สุด”

      “.....”

      “ในอนาคต”

      “....”

      “ช่วยทำตามคำพูดของพี่ด้วย”

      “.....”

      “เข้าใจนะครับ”

      สิ้นคำนั้นฉันก็พูดอะไรไม่ออกทันที รู้สึกอึนๆไปหมด แถมพี่อ้นยังทำในสิ่งที่ไม่คาดฝันกับฉัน พี่อ้นก้มลงประกบปากฉันทันทีที่พูดจบความร้อนในตัวเขาส่งผลให้ฉันรู้สึกแทบบ้าตายอยู่ภายในอ้อมกอดเขา  ความร้อนจากภายในปากส่งถึงฉันอย่างไม่ต้องสงสัย มันเป็นจูบแรกของฉันแทบยังได้จูบกับผู้ชายที่ฉันหลงรัก มันจะมีอะไรที่มีความสุขมากกว่านี้กันนะ หัวใจฉันมันเต้นรัวและเร็วไปหมดแล้ว พี่อ้นไม่ปล่อยให้ฉันได้หายใจเลยยังคงครอบครองริฝีบอกของฉันอยู่อย่างนั้น ฉันที่ไม่รู้ว่าตัวเองแรงหมดไปเมื่อไหร่เมื่อรู้สึกถึงว่าพี่อ้นกำลังจะประคองร่างฉันเอาไว้ จูบทีตอนแรกอ่อนโยนกลายเป็นดั่งไฟร้อน ช่างดูดดื่มอะไรเช่นนี้

      “หวานจังนะ”พี่อ้นถอนริมฝีบอกช้าๆก่อนจะพูดคำที่พูดทำให้ฉันหน้าแดงขึ้นอีกเป็นล้านเท่า

      “พะ พี่”

      “หึ”พี่อ้นหัวเราะออกมาแค่นั้นก็อุ้มฉันขึ้นมาทันที

      “พะ พี่จะพาไปไหนคะ”ฉันถามเสียงหลงทันที

      “ในห้องน้ำพี่ว่ามันไม่คอยโอเคมั้ง”พี่อ้นตอบเสียงเจ้าเลห์ก่อนจะพาฉันออกมาจากห้องน้ำแล้วก็วางฉันลงบนเตียงช้าๆก่อนที่ตัวเองจะนอนลงทับฉันอีกที แล้วก็ต่อด้วยจูบที่ฉันรู้สึกแทบจะละลายกองเลยไปตรงนั้น

      “ไม่ว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้น”พี่อ้นพูดขึ้นมาหลังจากที่ถอนริมฝีปากออก

      “....”

      “พี่จะบอกว่า”

      “.....”

      “มันไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบของพี่นะ”

      “.....”

      “อย่ามองพี่ด้วยสายตาแบบนั้น เพราะมันอาจจะไม่จบเฉพาะคืนนี้”สิ้นคำนั้นพี่อ้นก้มลงปิดปากฉันที่ยังอึนอยู่ก็รู้สึกว่าตัวเองโหว่งๆทันที หัวใจเต้นรัวไปหมดแล้วพี่อ้นกำลังทำให้ฉันคลั่ง พี่อ้นถอนริมฝีปากก่อนจะจับมือฉันเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวส่วนอีกมือหนึ่งก็ลูบไล้ไปทั่วตัวฉัน ส่วนปากนั้นก็ไล้ลงมาสูดดมกลิ่นตัวฉันจากซอกคอ ก่อนจะฝากรอยที่ทำให้ฉันรู้สึกอายเอาไว้

      “อืม”ฉันไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงนอกจากกอดพี่เขาตอบ ฉันกำลังลืมเรื่องที่ตัวเองเครียดเรื่องพี่เขากับพี่แบมบี้กำลังลืมเรื่องทุกอย่างไปหมดสิ้น พี่อ้นไม่ปล่อยฉันออกจากร่างกายเขาเลยซักนิดเดียว แต่กลับกอดฉันเอาไว้แน่นมากขึ้นกว่าเดิม ให้ตายซิฉันกำลังจะขาดอากาศหายใจ

      “พี่ไม่ทนแล้วนะ พี่รู้สึกว่าพี่รอนานไปแล้ว”ฉันไม่รู้ว่าพี่อ้นพูดอะไรบ้างรู้แต่ว่าตอนนี้ฉันกำลังมีความสุขที่ได้กอดพี่เขา มีแค่นั้นฉันก็มีความสุขมากเหลือเกินจริงๆ

      พี่อ้นเลื่อนมือขึ้นมาแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาของฉันอย่างช้าๆซึ่งมันทำให้ฉันสั่นสะท้านไปทั่วร่างกายเมื่อเสื้อได้ถูกถอดออกมาแล้วฉันก็กระทบกับความเย็นของห้อง พี่อ้นพรมจูบทั่วตัวฉันช้าๆ ก่อนจะฝากรอยเอาไว้เต็มตัวของฉัน แล้วก็เลื่อนปากตัวเองมาประกบปากฉันเอาไว้อีกครั้ง ร่างกายของฉันกำลังกรีดร้อง ในการกระทำของเขา ให้ตายซิ

      ก๊อก ก๊อก

      แต่ก่อนที่สติของฉันและพี่อ้นจะเตลิดไปมากกว่านี้เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเรียกสติของฉันกลับมาทันที

      “พะ พี่อ้นพอก่อนคะ”ฉันรีบดันเขาออกจากตัวพี่อ้นมองหน้าฉันก่อนจะมองไปข้างนอกแล้วก็สถบออกมาเบาๆ

      “ใครว่ะ”

      “พะ พี่ไปเปิดประตูนะคะ เดี๋ยวเชอรีน จะ จะ แต่งตัวก่อน”ฉันรีบละล่ำบอกอย่างรวดเร็ว

      “เฮ้อ ใส่ให้มิดชิดด้วยพี่ไม่อยากให้ใครเห็นถ้าเกิดเป็นไอ้บ้าฝรั่งนั้น”พี่อ้นบอกอย่างหัวเสียก่อนจะเดินนอกจากห้องไป ฉันรู้สึกว่าตัวเองยิ้มออกมาหน่อยๆ เหมือนหัวใจกำลังจะพองออกมา คำพูดนั้นหมายความว่ายังไงกันแน่นะ หึงรึเปล่านะ ฉันยิ้มกับตัวเองก่อนจะจัดการกับตัวเองในการรีบใส่เสื้อผ้าทันที

      ...................................................................................................



      ปึง

      ฉันรีบออกมาจากห้องในสภาพที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ก็พบว่าคนที่มาคือพี่ดิวกับพี่ตั้มนั้นเอง

      “อ้าวพี่”ฉันทักพี่ดิวที่เห็นฉันก็รีบวิ่งมาหาฉันทันที

      “ฉันได้ข่าวว่าแกไม่ยอมกลับบ้านกับไอ้อ้นแถมให้ไอ้ฝรั่งมาส่งอีก”

      “เขาอยู่คอนโดเดียวกับพี่อ้น”

      “ยังไงก็ชั่งทำไมแกไม่ฟังฉันบ้าง หะ”พี่ดิวตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมกับทำหน้างอใส่แล้วก็จับตัวฉันแน่น

      “เรื่องแค่นี้พี่ต้องถ่อสังขารตัวเองมาเลยหรอไง”

      “เออ” พี่ดิวตอบกลับก่อนจะเดินชนฉันเข้าห้องครัวไป

      “ปล่อยดิวมันไปก่อนเถอะเชอรีน ได้ข่าวว่าไม่สบายเป็นไงบ้าง”พี่ตั้มถามพร้อมกับเดินมาหาฉันแล้วก็ลูบหัวเบาๆอย่างที่เคยทำ

      “อะแฮ่ม แฮ่ม”อยู่ดีๆพี่อ้นก็กระแอมไอขึ้นมาฉันหันไปมองก็เห็นพี่อ้นกำลังเบนสายตาไปทางอื่น

      “ไอ้นี้นิ หึงได้แม้กระทั่งเพื่อน”

      “พี่ว่าอะไรนะพี่ตั้ม”ฉันถามเพราะสิ่งที่ฉันได้ยินมันได้ยินไม่ถนัด พี่ตั้มที่เห็นฉันถามก็ทำหน้าเล่อหล่าก่อนจะตอบกลับมา

      “เปล่าไม่มีอะไรจ๊ะ”

      “อ่า คะ”

      “แล้วตกลงเป็นไงบ้าง”

      “ไม่เป็นอะไรแล้วคะ”ฉันยิ้มตอบ

      “ไอ้อ้น ไปคุยกันข้างนอกหน่อย”พี่ดิวที่เดินกลับมาจากห้องครัวพูดขึ้นก่อนจะเดินออกไปนอกห้องทันที ฉันมองตามพี่ทั้งสองไปอย่างงๆ

      “มีอะไรรึเปล่าคะ พี่ตั้ม”ฉันถามพี่ตั้มที่ตอนนี้ก็ยังงอยู่เหมือนกัน

      “พี่ก็ไม่รู้นะ ปล่อยมันสองคนไปเถอะ อ้นมันดูแลดีไหมเนี่ยะ”

      “ดีคะ”ฉันตอบก่อนจะยิ้มให้

      “อืม ดีแล้วถ้าดูแลไม่ดีพี่ว่าตอนนี้ไอ้ดิวมันเอาเชอรีนคืนไปแล้ว”

      555 พี่ดิวนะก็หวงเชอรีนเกินไป ไม่ให้เชอรีนได้เจอกับอะไรเลย เรื่องคริสอีก คริสเป็นคนดีนะค่ะเชอรีนรับประกัน”ฉันบอกกับตั้มอย่างยิ้มๆ พี่ตั้มก็มองหน้าฉันแบบเหยๆเหมือนมีอะไรอึกอัดใจ

      “พี่ตั้มค่ะ”ฉันเรียกพี่ตั้ม พี่ตั้มจึงมองหน้าก่อนจะตอบกลับมา

      “อะไรหรอ”

      “พวกพี่ไม่ได้มีอะไรปิดบังเชอรีนใช่ไหม”ฉันถามออกไปในทันที ก็คนมันอยากรู้นิหน่า พี่ตั้มที่ได้ยินก็ทำหน้าเลอหล่าทันที มันทำให้ฉันยิ่งสงสัยมากกว่าเดิม

      “ปะ เปล่าซักหน่อย”พี่ตั้มพูดเสียงตะกุกตะกัก ฉันจ้องหน้าพี่ตั้มอย่างเอาเรื่อง ฉันว่าแล้วมันต้องมีอะไรแน่นอน เหมือนฉันคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องนี้ซะด้วย

      “พี่ตั้มคะ”

      “ไม่มีอะไรจริงๆจ๊ะ พี่หิวแล้วทำอะไรให้พี่กินหน่อยนะ”พี่ตั้มรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วก็เดินออกจากห้องตามสองคนนั้นไปทันที ฉันมองตามอย่างฉงนใจ มันต้องมีอะไรแน่ๆเลย ทุกคนกำลังมีอะไรปิดบังฉัน ปิดบังฉันแน่นอน

      10 นาทีผ่านไป

      “ไอ้เวรเอ๋ย”เสียงพี่ดิวสถบดังลั่นข้างนอกห้องทำให้ฉันที่กำลังลงมือทำอาหารถึงกับหยุดชะงัก

      “ใจเย็นๆ ไอ้อ้นมันอธิบายแล้วนิ”ตามด้วยเสียงพี่ตั้มที่เหมือนกำลังพูดปลอบ

      “ไอ้อ้น เวรเอ๋ยเอ็งก็รู้ว่าข้าหวงขนาดไหน ทำไมว่ะ”

      “ดิวใจเย็นๆ ยังไงมันก็รักของมันนะ”

      “รู้โว้ย แต่มันยังไม่ถึงเวลานิหว่า”

      “เออ ข้ารู้แต่ให้ทำไงได้ ข้าก็หักห้ามใจอยู่เนี่ยะ ทั้งหึงทั้งหวงจะตายอยู่แล้ว”เสียงพี่อ้นดังกลับมา แล้วคำพูดของพวกพี่เขามันทำให้ฉันรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากก็เลยตัดสินใจวางของที่จะทำลงแล้วก็เดินไปที่หน้าประตู

      “เออ เวรเอ๋ย”พี่ดิวสถบออกมาเสียงดังอีกรอบ ฉันเดินไปที่ประตูก่อนจะค่อยๆเงียหูฟัง

      “เฮ้อ เคลียร์กันลงตัวแล้วใช่ไหม”พี่ตั้มพูด

      “เออ แต่ก่อนเคลียร์ขอซักหมัดก่อนเถอะ”

      ผัลวะ

      ยังไม่ทันที่พี่ดิวพูดจบฉันก็ได้ยินเสียงแรงกระแทก จนฉันรู้สึกตกใจ

      “ไอ้ดิวเอ้ย”พี่ตั้มสถบออกมา

      “สะใจแล้วใช่ไหม เจ็บนะเนี่ยะหมัดเองเนี่ยะ”ตามด้วยเสียงพี่อ้นพูดเสียงอ่อยๆ ฉันที่ได้ยินว่าพวกพี่เขาต่อยกันก็เดินออกมาดูทันที

      “พวกพี่ทำอะไรกัน”

      “เชอรีน “ สามหนุ่มพูดขึ้นมาพร้อมกันเสียงดังอย่างตกใจที่เห็นฉันโผล่มา

      “ก็ใช่นะสิ ทะเลาะอะไรกันเสียงดังไปถึงในห้อง”

      “แกได้ยินอะไรมั้ง”พี่ดิวถามอย่างลุกลี้ลุกลนทันที

      “ก็ได้ยินว่าพี่ทะเลาะกันนั้นแหละ พี่ดิวพี่ต่อยพี่อ้นทำไมอ่ะ”ฉันรีบถามทันทีเพราะตอนนี้เลือดออกที่ปากของพี่อ้นแล้ว

      “ช่างมันเถอะ มันเรื่อของพี่กับไอ้ดิวนะ”พี่อ้นรีบบอกก่อนจะเดินเข้าห้องไป

      “ยังไงพี่ดิว”เมื่อพี่อ้นไม่พูดฉันก็หันไปถามพี่ดิวแทน

      “เฮ้อ เวรเอ๋ย ดูแลตัวเองด้วย ไอ้ตั้มกลับ”พี่ดิวพูดก่อนจะเดินหันหลังแล้วกลับไปทันที

      “ไอ้พี่ดิว”ฉันตะโกนเรียกแต่พี่ดิวก็ไม่สนใจเดินต่อไปจนถึงหน้าลิฟต์

      “ปล่อยมันไปเถอะ เดี๋ยวพี่ดูแลเองไปดูแลอ้นเถอะท่าทางหมัดไอ้ดิวท่าทางจะหนัก”พี่ตั้มบอกก่อนจะวิ่งตามพี่ดิวออกไป ฉันมองตามก่อนจะเดินเข้ามาในห้องก็เห็นว่าพี่อ้นกำลังนั่งอยู่ที่โซฟา

      “พวกพี่เป็นอะไรกัน ทะเลาะกันหรอ”ฉันถามออกไปก่อนจะเดินไปหยิบชุดทำแผลมาแล้นั่งลงข้างๆพี่อ้น

      “เฮ้อ เปล่านะเข้าใจผิดกันเล็กน้อย”พี่อ้นตอบก่อนจะมองทีวีอย่างไม่สนใจอะไร

      “นี้เรียกว่าเล็กน้อยหรือไงนะ หันหน้ามาสิพี่”ฉันบอกแกมบังคับ พี่อ้นที่เห็นฉันเรียกอย่างนั้นก็หันหน้ามา ฉันจึงจัดการกับแผลที่มุมปากเขาทันที

      “เจ็บมากไหม”

      “ไม่”

      “พี่ดิวท่าทางจะหมัดหนักแฮะ”ฉันบอกเบาๆก่อนจะใช้สำลีเช็ดคราบเลือดเขาตรงปาก

      “ พี่ขอโทษนะ”พี่อ้นพูดขึ้นมาพร้อมกับจ้องหน้าฉัน ฉันจึงมองพี่เขาอย่างสงสัยทันที

      “ขอโทษเรื่องอะไร”

      “ก็เรื่องที่เกือบจะเกินเลยก่อนที่ดิวกับตั้มจะมา”คำพูดของพี่อ้นทำเอาฉันหน้าแดงฉาดทันที เขินนะเนี่ยะ ลืมไปเลยนะเนี่ยะว่าเมื่อกี้ฉันกับพี่อ้นเราเกือบจะอะไรๆกันแล้ว

      “ชะ ช่างมันเถอะพี่”ฉันรีบบอกก่อนจะรีบทำแผลแล้วนำชุดพยาบาลไปเก็บทันที

      “เชอรีน”แต่พี่อ้นกลับเรียกฉันเอาไว้ ทำให้ฉันต้องหยุดเดินแล้วหันมามองทันที

      “คะ”

      “จำคำที่พี่บอกตอนในห้องนำได้ใช่ไหม”

      “จะ จำได้คะ”

      “ทำให้ได้นะ”พี่อ้นพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นแล้วก็เดินเข้าห้องไปทันที ฉันมองการกระทำของพี่อ้นด้วยแววตาสงสัย มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยะ ทุกคนกำลังมีความลับกับฉัน ทุกคนกำลังปิดบังฉัน มันเกิดอะไรขึ้น
      ......................................................................................................................................................................................
      ขอโทษทุกคนนะค่ะที่ช้า 555 ไรต์หายไปตั้งอาทิตย์กว่าๆแหนะต่อไปนี้ไรต์จะอัพในบทความนี้หมดเลยน้าาา

      ....................................................................................................................................................................................................................

       

      รุ่งเช้า

      วันนี้ฉันหยุดเรียน เนื่องจากอาการไม่สบายกำเริบ ค่อกแค่กๆ

      (เฮ้อให้ตายซิ รีน ทำไมแกไม่ดูแลตัวเองเลยห๊ะ)เสียงของดีดังลั่นออกมาจากโทรศัพท์จนฉันต้องเอาออกจากหูทันที

      “มันเกิดขึ้นแล้วนิ ฉันก็ไม่เป็นอะไรมากด้วย”ฉันบอกกับดี เมื่อดีรู้จากพี่อ้นว่าฉันไม่สบายและไม่ได้ไปมหาลัยดีก็โทรหาฉันทันที แล้วฉันก็ต้องมานั่งสาธยายให้เพื่อนตัวดีฟังว่าฉันเป็นอะไรถึงไม่สบาย

      (เฮ้อ เดี๋ยวฉันจดงานเอาไว้ให้ละกัน  แล้วถามจริงแกกับคริสอยู่คอนโดเดียวกันหรอเนี่ยะ ตายซิ)

      “ทำไมถึงตายละ”

      (เฮ้อ ไม่มีอะไรหรอก ดูแลตัวเองด้วยละเดี๋ยวเย็นนี้จะไปเยี่ยม)ดีรีบบอกปัดฉันจึงได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้

      “ดี แกไม่มีอะไรปิดบังฉันใช่ไหม”ฉันถามด้วยความกังวล ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเหมือนคนโง่เลยในตอนนี้

      (เชอรีน)ดีเรียกฉันออกมาเสียงเบา เหมือนกำลังครุ่นคิด

      “แกเป็นเพื่อนของฉันใช่ไหม”

      (ถ้าฉันบอกว่ามี แกอยากจะรู้ใช่ไหมว่ามันคืออะไร)ปลายสายตอบมา

      “อืม”ฉันตอบออกไปทันที ตอนนี้ฉันไม่อยากดูเป็นเหมือนคนโง่ พี่อ้นก็มีท่าทีที่เปลี่ยนแต่เดี๋ยวสักแปปเขาก็กลับมาเย็นชา และคำพูดของเขาที่พูดกับฉันเมื่อวานมันคืออะไร แล้วไหนจะการกระทำของพี่ดิว พี่ตั้มอีกละ

      (นั้น ฉันขอไม่บอกแก แกแค่รู้ไว้อย่างเดียวว่าสิ่งที่เป็นความลับอยู่นี้ มันจะส่งผลดีต่อแก)

      “แล้วแกจะไม่ให้ฉันรู้เลยหรือไง”

      (ขอโทษนะ แต่เขาคนนั้นไม่ให้ฉันบอกแก อย่าคาดคั้นจากฉันอีกเลยนะเชอรีน)ดีบอกเสียงอ่อน จนฉันได้แต่ถอนหายใจออกไป

      “อืม แกไปเรียนเถอะ”ฉันบอกก่อนจะวางสายลง ความรู้สึกของฉันมันตีกันวุ่นวายไปหมด ทุกคนกำลังมีความลับกับฉัน และความลับนั้นมันส่งผลต่อตัวฉันด้วย ฉันจะทำยังไงให้ฉันได้รู้ความลับนั้นดี

      ตกเย็น

      วันนี้ฉันนอน แล้วก็นอนทั้งวันจริงๆ ไข้ที่เป็นมาก็ลดลงแล้วเรียบร้อย แต่อาการปวดหัวตึบๆของฉันก็ยังอยู่เหมือนเดิม ฉันตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะเตรีมอาหารเอาไว้ให้พี่อ้นและพวกพี่ๆและดีที่อีกไม่นานก็คงจะมาหาฉัน ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นมากขึ้น ความรู้สึกเพลียของร่างกายยังวิ่งผล่านอยู่ในร่างกายของฉัน นี้ขนาดนอนเยอะแล้วนะ ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำเช็ดหน้าให้แห้งแล้วก็เดินออกมาก่อนจะเปิดตู้เย็นเพื่อที่จะหาอาหารที่จะทำในวันนี้ และเมื่อเปิดดูก็พบว่ามันไม่มีอะไรเหลืออยู่ในตู้เย็นเลย

      “พี่อ้นลืมซื้อของมาหรือไงนะ”ฉันบ่นอุบอิบก่อนจะพาสังขารของตัวเอง ลงมาข้างล่างของคอนโด  ฉันเดินเข้าร้านค้าภายในคอนโดที่มีของสดมากมายขายอยู่ ฉันหยิบของออกมามากมายเพราะรู้ว่าวันนี้มากันหลายคนคงจะกินเยอะกันอยู่ แต่ดูเหมือนฉันจะพาร่างกายตัวเองมาทรมานเพราะอยู่ดีๆอาการปวดหัวที่เริ่มทุเลาลงก็กลับมาปวดมากกว่าเดิม

      “โอ๊ะ”ฉันรู้สึกเซเล็กน้อยจนต้องจับชั้นวางของเอาไว้แน่น รุ้สึกว่าตัวเองเหมือนอยากจะอ้วกเต็มทนแล้วตอนนี้ ให้ตายซิ   ไม่น่าพาตัวเองมาทรมานเลย

      “โอ๊ะ”ฉันต้องร้องออกมาอีกครั้งเมื่อตัวเองทำท่าจะล้มลง อ้ากเกลียดตัวเองจริงๆแค่ตากฝนแค่นี้ฉันก็หวัดกินจะตายแล้ว

      “เชอรีน !!”เสียงหนึ่งเรียกขึ้นฉันจึงค่อยๆพยุงตัวเองหันไปมองก็พบว่าเป็นคริสนั้นเอง

      “อ้าว คริส” ฉันทัก

      “เชอรีนเป็นอะไรไปครับ ทำไมดูหน้าซีดจัง”คริสบอกก่อนจะค่อยมาพยุงตัวฉัน

      “เป็นหวัดเล็กน้อยนะ”ฉันบอก

      “โอ้ ตัวร้อนนะเนี่ยะ ถึงว่าวันนี้ผมไม่เห็นคุณเดินกับเพื่อนคุณเลย เป็นอะไรมากรึเปล่าเมื่อวานที่ตากฝนใช่ไหมครับเนี่ยะ”คริสถามพร้อมกับค่อยๆจับตัวฉันและหยิบของที่ฉันถืออยู่ไปถือแทน

      “นิดหน่อยนะ เมื่อวานแหละตากฝนจนได้เรื่องเลย”ฉันบอกกับคริสยิ้มๆ คริสยิ้มให้ฉันเล็กน้อยก่อนจะพาฉันไปจ่ายตังค์แล้วก็ค่อยๆพยุงฉันเดินออกมาจากร้านค้า

      “แล้วนี้ พี่คุณไปไหนละ”

      “พี่อ้นนะหรอ ไปมหาลัยนะ”ฉันบอก

      “เชอรีน ผมถามอะไรอย่างนึงได้ไหม”คริสพูดหน้าเครียดจนฉันต้องมองอย่างสงสัย

      “อะไรหรอ”

      “ถึงแม้ว่าเราจะพึ่งรู้จักกันนะครับ แต่คุณไว้ใจผมพอที่จะเล่าเรื่องของคุณให้ฟังได้ไหม เมื่อวานผมเห็นคุณร้องไห้” คำพูดของคริสมันกระตุกอารมณ์ของฉัน ใช่สินะเมื่อคืนฉันร้องไห้ท่ามกลางสายฝนด้วยสินะ ร่างกายของฉันถึงได้มาป่วยอย่างนี้

      “ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่หลงรักผู้ชายที่ไม่รู้ว่าเขารักฉันบ้างไหม”

      “พี่อ้นใช่ไหมครับ”

      “อืม”ฉันตอบรับเบาๆ ความรู้สึกของความปวดร้าวมันกำลังบีบหัวใจให้ฉันร้องไห้อีกครั้งหนึ่ง ทำไมฉันรู้สึกอ่อนแออย่างนี้นะ

      “อย่าร้องไห้นะครับ ไปหาอะไรทานกันหน่อยไหม ไม่สบายอย่างนี้ผมมีร้านข้ามต้มร้านหนึ่งอร่อยนะ”คริสที่เห็นฉันเริ่มน้ำตาคลอรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วช่วยฉันถือของก่อนจะจับมือฉันให้ตามเขาไปทันที ทำไมฉันถึงไม่มองคนอื่นนอกจากเขาคนนั้นบ้างนะ คนที่ทำดีมีกับฉันมากมายแต่ฉันกับเลืกที่จะรักเขา หรือเป็นเพียงแค่เขาพูดคำๆนั้นออกมาเมื่อคืนทำให้ฉันยังดันทุรังที่จะรักเขาต่อทั้งๆที่เขาอาจจะมีพี่แบมบี้เคียงข้างอยู่แล้ว  ฉันยังจะรักเขาหรอ ฉันยังจะปล่อยให้หัวใจตัวเองรักผู้ชายที่มีเจ้าของหรือยังไงกันนะ เหลืออีกไม่กี่วันในช่วงเวลาที่ฉันต้องทำใจเพื่อให้ลืมผู้ชายคนนั้น ฉันจะต้องทำให้ได้ซิ  ฉันต้องลืมคำพูดที่เขาพูดกับฉันเอาไว้ ฉันต้องเลิกรักผู้ชายที่ทำให้ฉันเจ็บปวดแทบปางตายให้ได้ซิ

      “ถึงแล้วครับ”เสียงของคริสทำให้ฉันหลุดจากภวังค์ในห้วงความคิดของตัวเอง และเมื่อสังเกตเห็นคริสพาฉันมาถึงร้านข้ามต้มแห่งหนึ่งเรียบร้อยแล้ว

      “ร้านนี้อร่อยนะ ไม่สบายอย่างเชอรีนน่าจะกินเยอะๆนะครับ”คริสบอกเสียงใสก่อนจะพาฉันนั่งลงพร้อมกับวางของที่ฉันซื้อมามากมายเอาไว้ข้างตัว

      “ขอบคุณนะคริส”

      “ขอบคุณเรื่องอะไรครับ”

      “ขอบคุณที่ยายพยายามทำให้ฉันไม่ต้องคิดถึงเรื่องของเขา”

      “ไม่เอาน่าเชอรีน เราเป็นเพื่อนกันนะถึงแม้ว่าจะรู้จักกันไม่นานก็เถอะแต่คุณก็คือเพื่อนของผมนะครับ”คริสบอกก่อนจะยิ้มสดใสมาให้ฉัน ฉันยิ้มตอบก่อนที่จะเริ่มลงมือสั่งอาหารมามากมาย

      “กินเยอะๆเลยนะ วันนี้ผมมีเงินเยอะเดี๋ยวเลี้ยงเอง”

      “จะเป็นเสี่ยหรอไง หะ 555

      “ใช่วันนี้เลี้ยงสาวๆได้บานเลย”คริสบอกขำๆก่อนที่เราสองคนจะคุยกันมากมายและหัวเราะกันจนฉันลืมความเจ็บปวดที่ตัวเองสร้างขึ้นมาได้ แต่มันคงเป้นช่วงแค่เวลาสั้นๆเท่านั้นที่ฉันจะลืมช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดไปได้ เพราะทันทีที่คริสเดินมาส่งฉันที่ห้อง ทุกคนที่นั่งรออยู่ก็มองฉันกับคริสด้วยแววตาโกรธจัด แต่สิ่งที่สะเทือนจิตใจของฉันมากที่สุดคือการที่พี่แบมบี้มานั่งเคียงข้างพี่อ้นอยู่ภายในห้อง

      “ไปไหนมา”พี่ดิวที่เห็นฉันก็ถามขึ้นมาทันที

      “ไปซื้อของมา”ฉันบอก คริสที่เดินตามมาทำท่าจะกลับแต่ฉันกลับจับมือคริสเอาไว้ทันที

      “ทำไมหรอเชอรีน”คริสถามเสียงเบา จนดูเหมือนเราสองคนกระซิบกัน

      “อยู่เป็นเพื่อนเรานะ เราไม่อยากร้องไห้คนเดียว”ฉันบอกเสียงสั่นพร้อมกับพยักเพยิดหน้าให้เขาดูว่าพี่แบมบี้กำลังนั่งเคียงข้างอยู่กับพี่อ้น คริสที่เห็นดังนั้นก็บีบมือฉันแน่นทันทีเหมือนเป็นการให้กำลังใจ

      “แล้วทำไมถึงกลับมากับไอ้หมอนั้น”พี่ดิวถามเสียงเข้มพร้อมกับเดินมาหาฉันและคริส

      “เชอรีนเจอคริส เราสองคนเลยไปกินข้าวด้วยกันมา”ฉันพูดเสียงเรียบ พี่ดิวมองหน้าฉันพร้อมกับดูมือของฉันที่จับกับคริสแน่นด้วยความงุนงง ก่อนที่พี่ดิวจะเหลือบมองไปยังข้างหลังที่ตอนนี้ พี่ตั้ม พี่อ้น พี่แบมบี้ และดีกำลังมองอยู่

      “พัฒนาถึงขั้นจับมือและไปกินข้าวด้วยกันได้แล้วหรอ”เสียงของพี่อ้นถามขึ้นมาเสียงเรียบแต่น้ำเสียงนั้นช่างดูน่ากลัวและขนลุกไปในเวลาเดียว

      “คะ”ฉันตอบกลับ พี่อ้นจ้องหน้าฉันพร้อมกับสลับจ้องมองมือของฉันที่กุมมือคริสแน่น  ตอนนี้คริสคงรู้สึกว่าฉันกำลังกลัวเพราะคริสกระชับมือฉันแน่นมากขึ้นกว่าเดิมพร้อมกับบีบมันแน่นๆเพื่อบอกว่าอย่าพึ่งปล่อยน้ำตาออกมา

      “ไอ้ดิวไม่นึกเลยนะ น้องเอ็งจะเป็นอย่างนี้ หึ นึกว่าไม่สบายก็จะกลับมาดูแลที่ไหนได้ลงไปกินข้าวกับผู้ชายซะแล้ว”

      จึ๊ก

      ถ้อยคำนั้นทำให้ฉันแทบทรุดน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้แทบจะไหลลงมาถ้อยคำที่บาดหัวใจมันช่างเสียดสีจนฉันอยากจะปล่อยน้ำตาออกมา

      “ไอ้อ้น!!”พี่ตั้มปรามขึ้นมาทันที 
      ..................................................................................................................................................................................................................
      อ้ากกพี่อ้นเราเป็นอะไรเนี่ยะ พี่คริสเริ่มมาแล้วววว อ้ากกต่อไปปปเซอร์ไพร์แน่ 555
      ....................................................................................................................................................................................................................

      ฉันจ้องหน้าพี่อ้นนิ่ง แต่ตอนนี้หัวใจของฉันแทบเหลวแหลกลงไปเรียบร้อย ดีมองหน้าฉันด้วยความสงสารปนเห็นใจที่เห็นว่าผู้ชายที่ฉันรักกำลังพูดจาเสียดแทงจิตใจของฉัน

      “หึ คงกินอิ่มหนำสำราญกันมาแล้วซินะ คงไม่ต้องทำให้พวกพี่กินแล้วแหละ”พี่อ้นยังคงพูดออกมาพร้อมกับแววตาที่ดูแข็งกร้าวและตัดพ้อจนฉันรู้สึกสับสนกับแววตาและการกระทำของเขาไปหมด

      “พี่อ้น!!”ดีพูดขัดขึ้นอีกคน ฉันยังคงจ้องหน้าพี่อ้นนิ่งน้ำตาคลอออกมาอย่างห้ามไม่ได้อีกต่อไป พี่ดิวที่เห็นสีหน้าฉันก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

      “ถ้าพี่อยากจะกิน เชอรีนจะทำให้ค่ะ ถึงแม้ว่าเชอรีนจะอิ่มจากการไปดื่มด่ำกับคริสแล้วแต่เชอรีนก็ยังมีจิตสำนึกที่จะทำให้พี่กิน”ฉันพูดประชดออกไปด้วยแววตาแข็งกร้าว พี่อ้นที่ได้ยินฉันพูดดังนั้นก็ถึงกับจ้องหน้าฉันเขม็ง

      “เชอรีน!!

      “รีน!!

      คอนนี้ทุกคนเรียกชื่อฉันออกมาเสียงเดียวเมื่อเห็นว่าฉันพูดอะไรออกไป คริสที่เป็นหนึ่งในนั้นหันมามองหน้าฉันนิ่ง พร้อมกับบีบมือฉันเพื่อเป็นการถามว่าคุณทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร

      “ก็ดีที่เธอยังมีจิตสำนึกที่จะทำบ้าง”

      “คะ ยังไงเชอรีนก็มาที่นี้ในฐานะที่ต้องดูแลพี่อยู่แล้ว จะดูผู้หญิงของพี่และเพื่อนพี่อีกจะเป็นอะไร อีกอย่างเชอรีนก็มีความสุขกับผู้ชายของเชอรีนแล้ว เชอรีนก็อยากให้พี่มีความสุขกับผู้หญิงของพี่เหมือนกัน”

      “เชอรีน !!!

      “ไอ้รีน!!

      “รีน”

      เป็นอีกครั้งหนึ่งที่หลายเสียงเรียกชื่อฉันประสานออกมา ฉันรู้สึกเหมือนคำพูดของตัวเองบีบรัดแน่นหน้าอกไปจนหมด ไม่รู้ว่าตอนนี้หัวใจของตัวเองกำลังร้องไห้มากมายเท่าไหร่ แต่ตอนนี้แค่รู้สึกว่าตัวเองอยากจะนอนลงไปตายตรงนั้นให้ได้ซะทีเดียว นี้ฉันกำลังประชดเขาให้ได้อะไรขึ้นมานะเชอรีน

      “ก็ดี ช่วย กรุณา ทำอาหารให้ผู้หญิงของฉันทานด้วย”พี่อ้นพูดเสียงแข็ง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วก็เดินออกจากห้องไปทันที

      ปัง

      “.....”

      “......”

      ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันที ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจ้ะองไห้ออกมา แต่ก็ต้องกลั้นมันเอาไว้ คริสมองหน้าฉันด้วยความงง และรู้สึกสงสารฉันไปในตัว ฉันมองหน้าดีที่ตอนนี้หน้าบุญไม่รับจริงๆกำลังจ้องฉันเหมือนว่าเธอทำอะไรของเธอเนี่ยะ

      “เป็นบ้าอะไร ไปประชดมันทำไม”พี่ดิวถามขึ้นมาทันทีพร้อมกับจ้องหน้าฉัน

      “เชอรีนไม่ได้ประชด”ฉันบอกเสียงสั่น

      “นั้นเรียกว่าไม่ได้ประชดหรือไง”พี่ดิวถามเสียงแข็ง ฉันไม่มองหน้าพี่ตัวเองอีกต่อไปแต่กลับจูงมือคริสเข้าห้องครัวไปทันที

      “เชอรีน”ดีวิ่งตามฉันมาก่อนจะมาดักหน้าฉันเอาไว้

      “ฮึก”ฉันกลั้นน้ำตาอีกไม่ไหวต่อไป มันเริ่มไหลออกมาช้าๆ

      “ขอโทษนะคะ ขอตัวเพื่อนฉันแปปนะคะ”ดีบอกคริสเบาๆ คริสที่เห็นดังนั้นก็ปล่อยมือฉัน ส่วนดีก็ดึงฉันเข้ามากอดทันที

      “ฮึก”

      “แกร้องไห้จนได้  ไปประชดพี่เขาทำไมถ้าจะร้องไห้ขนาดนี้”

      “ฮึก”

      “เชอรีน ผมไม่นึกว่าคุณจะทำอย่างนี้ ทำไมคุณไม่บอกเขาคนนั้นไป”คริสพูดขึ้นมาบ้าง

      “คุณรู้หรอคะ”ดีถามคริส

      “ครับ เธอร้องไห้ให้ผมเห็นสองรอบแล้ว ผมก็เลยเดาได้ว่าเธอเป็นอะไร”คริสตอบกลับมา ดีที่เห็นดังนั้นก็พยักหน้าตอบรับพร้อมกับกอดฉันเอาไว้แน่น

      “อย่าร้องไห้นะเชอรีน”

      “ฮึก ฉันไม่ได้อยากประชดเขา แต่เขาทำฉันก่อน”ฉันร้องไห้ออกมาอย่างอดกลั้นอีกไว้ไม่ได้ ตอนนี้ฉันไม่กลัวใครเข้ามาเห็นอีกแล้ว ต่อให้พี่ดิวรู้หรือว่าพี่ตั้มรู้ว่าฉันรักเขา ฉันก็ไม่สนอีกแล้วเพราะฉันจะต้องร้องไห้ให้ครั้งนี้เป็นสุดท้าย ต้องเป็นครั้งสุดท้ายใช่ไหมฮึก

      “เชอรีน”

      “ฮึก ฮึก”ไม่รู้ว่าน้ำตาที่ไหลออกมามันพลั่งพรูออกมาเท่าไหร่รู้แต่ว่าตอนนี้ทุกหยดน้ำตาของฉันมันกำลังซึมเข้าสู่จิตใจของฉันให้มันปวดร้าวมากขึ้นมากขึ้นจนฉันอยากจะทรุดกายตัวเองลงไว้ตรงนั้น

      “หยุดร้องไห้เถอะนะเพื่อน เดี๋ยวพวกพี่เขาจะสงสัยเอา”ดีบอกพร้อมกับลูบหลังฉันไปมา

      “ฮึก ฉันไม่สนอีกแล้ว ใครจะสงสัยก็ช่างเขาฉันจะร้องไห้ให้เขา ฮึก เป็นครั้งสุดท้ายฮึก”ฉันบอกกับดีเสียงสั่น ถึงปากของฉันจะพูดไปอย่างนั้น แต่ตอนนี้หัวใจของฉันมันต้านการกระทำที่ฉันอยากจะทำเหลือเกิน  ฉันยังอยากที่จะรักเขามากมาย แต่ฉันไม่อยากที่จะเจ็บอีกต่อไปแล้ว ไม่อยากอีกต่อไปแล้ว

      “แก !! พูดว่าไงนะ”

      “ฮึก ฉันจะต้องเลิกร้องไห้ให้เขาได้แล้ว ฉันเหนื่อยเกินไปแล้ว เหนื่อยมากเหลือเกิน”ฉันพูดพร้อมกับทรุดลงช้าๆ คริสวิ่งเข้ามาประคองตัวฉันทันที

      “เชอรีนไหวไหมครับ”

      “ฮึก”

      “ตัวร้อนแล้วรีน”ดีบอก ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหมดลมหายใจ ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะปิดตาลงด้วยความปวดหัวที่มันรุมเร้ามากขึ้น ฉันอยากจะหลับตาตรงนั้นไปเลยไม่อยากตื่นขึ้นมาพบกับความปวดร้าวที่ฉันจะต้องเผชิญอยู่มากมาย

      “ฮึก ฉันไม่เป็นอะไร ไม่ได้เป็นอะไรทั้งสิ้น”ฉันตัดสินใจรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีอยู่น้อยนิดลุกขึ้นยืน แต่สุดท้ายร่างกายของฉันมันก็ต้านความปวดร้าวทั้งตัวและก็หัวใจของฉันไม่ไหวอีกต่อไป

      พรึบ

      “กริ๊ด เชอรีน”

      “เชอรีน”

      สติของฉันดับวูบทันที ไม่รู้ว่าฉันรู้สึกยังไงอีกต่อไป แต่ตอนนี้ฉันอยากนอนอยากหลับไปเลยไม่อยากตื่นขึ้นมาเจอกับเขาอีกอยากให้เขาหายออกไปจากชีวิตฉัน ผู้ชายใจร้ายที่ดูถูกเหยียดยามฉัน

      ..........................................

      “เวรเอ๋ย” เสียงสถบดังลั่นพร้อมกับเสียงวิ่งเข้ามาในห้องครัวอย่างรวดเร็ว

      “เชอรีนเป็นอะไรดี”เสียงของดิวถามสาวผู้เป็นที่รักเสียงดังเมื่อเห็นร่างของน้องสาวตัวเองล้มลงและอยู่ในอ้อมกอดของสาวน้อย

      “ท่าทางจะไข้กินคะ อยู่ดีๆก็ทรุดลงไปเลย”ดีตอบด้วยอาการกลัวตอนนี้สาวน้อยร่างเล็กที่กอดเพื่อนอยู่มีสีหน้าตกใจกลัวมาก

      “ถอยไปไอ้ฝรั่ง”เสียงตวาดดังลั่นของหนุ่มผิวเข้มดังขึ้น จนทุกคนตกใจ

      “เฮ้ยใจเย็นๆไอ้อ้น”ตั้มปรามเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้รู้สึกหัวเสีย และอารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด

      “นี้ครับพี่” คริสรีบถอยห่างออกมาทันที อ้นที่เห็นว่าคริสถอยออกมาแล้วเขาก็รีบช้อนร่างของสาวน้อยที่นอนสลบอยู่ขึ้นมาในอ้อมแขนทันที

      “ไอ้อ้น อุ้มน้องข้าดีๆนะโว้ย”

      “เออ”อ้นตอบเสียงดังก่อนจะเดินออกนอกห้องไปอย่างเร่งรีบทันที ตอนนี้เขารู้สึกทั้งโกรธและเป็นห่วงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเขามากเหลือเกิน เมื่อกี้ก็ยั่วอารมณ์ให้เขาแทบเป็นบ้าตอนนี้ก็ทำให้เขาเป็นห่วงแทบขาดใจ เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ทำอะไรไว้กับเขาเธอถึงได้มีอิทธิพลต่อเขามากเหลือเกิน อ้นวิ่งพาเชอรีนขึ้นรถทันทีเมื่อพบว่าตัวเธอกำลังร้อนจี๋ และรีบขับรถแล่นสู่โรงพยาบาลด้วยแววตากังวล

      “เฮ้อ ไอ้อ้นคงดูแลได้อย่าคิดมากไอ้ดิว”ตั้มพูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของเพื่อน

      “เออ รู้ว่ามันดูแลได้ แต่ข้าทนไม่ไหวแล้วว่ะ ต่างคนต่างลองใจกันอยู่นั้น รีนร้องไห้ใช่ไหมดี”ดิวถามสาวข้างกายขึ้น

      “คะ ร้องหนักด้วยนะคราวนี้ พี่อ้นก็พูดประชดแรงเกินไปแล้ว”ดีตอบพร้อมกับมองหน้าทุกคนอย่างหนักใจ

      “เอ่อ ขอโทษนะครับ ตกลงคือพี่เขาชอบเชอรีนใช่ไหมครับ”คริสถามขึ้นมาทันทีด้วยความงุนงงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

      “ใช่ !!! ดังนั้นเอ็งห้ามมายุ่งกับน้องสาวฉัน” ดิวพูดเสียงดังพร้อมกับเดินออกจากห้องตามอ้นไปทันที

      “คริสค่ะ คุณรู้ความจริงแล้วอย่าพึ่งบอกเชอรีนนะคะ”ดีรีบบอกคริสทันที

      “ทำไมละครับ เชอรีนร้องไห้บ่อยมากเลยนะครับ ทำไมไม่ให้เธอรู้ว่าผู้ชายที่เธอรักก็รักเธอเหมือนกัน”คริสถามขึ้นอีกครั้ง

      “ลูกพี่ลูกน้องฉันเขาอยากให้ตัวเอง มีการมีงานที่ดีก่อนนะคะ อีกอย่างน้องรีนเป็นน้องสาวเพื่อนด้วย ดิวเขาก็หวงเป็นธรรมดาอ้นเลยต้องวัดใจกับดิวซักหน่อย”แบมบี้ที่ยืนเงียบอยู่นานเป็นคนตอบขึ้นมา คริสพยักหน้าลงเล็กน้อยเหมือนเข้าใจ

      “ดังนั้น คริสอย่าพึงบอกเรื่องนี้กับรีนนะคะ”ดีกำชับคริสเป็นครั้งสุดท้าย คริสพยักหน้าตอบ ก่อนที่ทุกคนจะเดินตามดิวออกไปเพื่อไปหาเชอรีนที่โรงพยาบาล

      .......................................................................................................................................................................
      อิอิ ความลับเผยแบ้ววววววว ตอนหน้าเข้มข้นขึ้น ซึ้งขึ้นแน่นอนเพราะจะจบแล้วจ้าาา ต่อไปใครรอ นางฟ้าของหัวใจ จะมาแล้
      .............................................................................................................................................................................................................................
      ฉันรู้สึกว่าตัวเองเหมือนมีอะไรมาทับอยู่บนหัวเลยตอนนี้ มันหนักมากจนฉันไม่อยากที่จะลุกขึ้นมา มันปวดร้าวไปหมดทั้งตัว ฉันค่อยๆลืมตาช้าๆแล้วก็พบกับเพดานห้องสีขาวสะอาดตาแถมยังมีกลิ่นยาลอยมาแตะจมูก โดยไม่ต้องสงสัยฉันอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นเอง

      “กินหน่อยไหมอ้น”เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้ฉันพยามยามมอง เพราะว่าตัวของฉันไม่สามารถขยับได้ก็เลยได้แต่มองอย่างเดียว และสิ่งที่ฉันเห็น มันทำให้ฉันอยากจะกลับไปหลับตาลงเหมือนเดิม ไม่อยากเห็นภาพพวกนี้เลย

      “ไม่เอาแล้วแบมบี้ อิ่มแล้วละ”

      “นี่นายอิ่มหรอ ฉันเห็นนายไม่ได้กินอะไรเลยนะ”

      “เอาน่า”

      “นี่ !! ฉันเป็นห่วงนะ เป็นเด็กไปได้ กินเดี๋ยวนี้เลย”

      เสียงของผู้หญิงและผู้ชายสองคนที่กำลังจิกัดกันเล็กๆอยู่นั้น ทำให้ฉันอยากจะปิดหูไม่ให้ได้ยินเสียงนั้น และอยากจะหลับตาลงไปเลย น้ำตาของฉันที่ไม่รู้ว่ามันคลอออกมาเมื่อไหร่กำลังเอ่ออกมา จนฉันต้องหันกลับมาอีกทางเพื่อให้น้ำตามันไหลออกมาช้าๆ

      “กินเร็ว เดี๋ยวน้องรีนตื่นมานายจะได้มีแรงดูแล”

      “ไม่เอา อิ่มแล้ว”

      “นี่ นายกรกฏ กินเข้าไป”

      “แบมบี้ มันเลอะหมดแล้ว”

      555

      เสียงพวกนั้นทำให้ฉันปล่อยน้ำตาให้มันออกมาช้าๆอย่างปวดหัวใจตัวเอง มันรู้สึกร้าวไปทั้งตัวและหัวใจของฉันเลยในตอนนี้ ใครก็ได้เอาภาพพวกนี้ออกไปจากฉันที

      “นี่ พวกแกสองคนจะสวีตกันอีกนานไหม น้องฉันเป็นไงบ้างเนี่ยะ”เสียงของผู้มาเยือนใหม่ทำให้ฉันต้องรีบปาดน้ำตาขึ้นมาทันที

      “สวีตบ้านแกซิดิว ตายกันพอดี”

      555 แบมบี้จัดการมันเลย”

      “พอเลยไอ้สองคนนี้นิ รีนเป็นไงบ้างว่ะอ้น”

      “ไปดูดิ มัวแต่ทะเลาะอยู่กับคนแถวนี้เลยไม่ได้ดูเลย”

      “เองนิ เดี๋ยวปั๊ดไม่ให้เลย”

      “ทำได้ปะหละ ว่าไม่ให้อ่ะ”

      “ไอ้อ้น เพื่อนเวรเอ๋ย”

      55555

      ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาคุยเรื่องอะไรกันรู้แต่ว่าตอนนี้ฉันปวดหัวและอยากที่จะนอนเต็มทนแล้ว ปวดมาจริงๆตอนนี้ทำไมมันหนักสมองฉันอย่างนี้นะ

      “รีน”เสียงของพี่ดิวดังขึ้นทำให้ฉันหันไปมอง ด้วยความงัวเงีย

      “พี่”

      “เป็นไงบ้าง หน้าซีดเลยไอ้แสบ”

      “ไม่เป็นไรแล้ว”ฉันบอกก่อนจะค่อยๆหลับตาลงช้าๆ

      “ตัวยังร้อนอยู่เลย ไหวไหมเนี่ยะ”

      “ไหว”ฉันบอกเบาๆทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาขึ้นมา มันลืมไม่ขึ้นอีกแล้ว

      “นั้นพักผ่อนเยอะๆนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มาเยี่ยม พี่ให้อ้นมันดูแลนะ”

      “อืม”ฉันบอกคำสั้นๆ เพราะตอนนี้ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้วเพราะมันรู้สึกปวดหัวไปหมด

      “พี่ไปแล้วนะ “พี่ดิวบอกสั้นๆก่อนจะลูบหัวฉันเบาๆ

      “ฝากน้องด้วยนะอ้น”

      “อืม กลับบ้านดีๆนะเพื่อน ส่งไอ้ตั้มให้ถึงบ้านด้วยละ เดี๋ยวมันไปเป็นเงาะหานางรจนาอยู่”

      “ไอ้อ้น”

      555 กลับบ้านดีๆนะเพื่อน”

      เสียงโวกเวกโวยวายเวียงดังหายไปตอนนี้คงอยู่กันแค่สามคนซินะ ฉันหลับตาช้าๆเพื่อพยายามตัวเองไม่ให้ได้ยินเสียงของสองคนที่ฉันไม่อยากได้ยินเลยในตอนนี้

      “น้องเชอรีน นอนพักเยอะๆนะคะ”เสียงของพี่แบมบี้พูดขึ้นพร้อมกับการเคลื่อนไหวของผ้าห่มที่ขัยมาห่มตัวฉันมากขึ้น

      “จะกลับเลยไหม”พี่อ้นถามขึ้น

      “จะไล่หรือไง”

      “เปล่า จะอยู่ก็ได้ไม่ได้ว่า”

      “ชิส์ ไม่อยู่หรอกเดี๋ยวคนแถวนี้อดทำอะไรบางอย่าง”

      “อะไรของเธอ”

      เสียงของคนสองคนยังดังเถียงกันฉันหันหลังหนีเสียงนั้น ไม่รู้เมื่อไหร่ที่น้ำตาของฉันมันไหลออกมาอีกแล้ว มันไหลออกมาช้าๆ ให้ตายซิเมื่อวานฉันยังรู้สึกว่าพี่อ้นอาจมีใจให้ฉันแต่ตอนนี้ความคิดนั้นมันถูกแทนที่ด้วยเสียงของสองคนนั้นหมดเลย เสียงของคนที่รักกันกำลังหยอกล้อเล่นกัน

      ก๊อก ก๊อก

      ยังไม่ทันที่ฉันจะได้หลับตาลง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น

      “สวัสดีครับ เชอรีนนอนอยู่หรอครับ”เสียงของคริสนั้นเอง ฉันลืมตาขึ้นทันทีพร้อมกับปาดน้ำตาทิ้งอีกครั้งแล้วหันกลับไปมองเพื่อนตัวเองทันที

      “คริส”ฉันเรียกคริสพร้อมกับลุกขึ้นนั่งทันที

      “รีบขนาดนั้นเลยหรือไง ระวังหน่อยซิ”พี่อ้นพูดเสียงแข็งพร้อมกับมาประคองฉัน

      “เชอรีน ไม่เป็นอะไรค่ะ ปล่อยด้วยค่ะ”ฉันบอกพร้อมกับมองหน้าคริสทันที ไม่อยากที่จะมองหน้าเขาเลย

      “เฮ้อ “พี่อ้นถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โซฟาตามด้วยพี่แบมบี้ ส่วนคริสเดินมาหาฉัน

      “เป็นไงบ้าง”คริสทักขึ้น

      “ดีแล้ว”ฉันตอบ

      “รู้ไหมตอนที่ล้มลงไปตกใจมากเลย”

      “ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง”

      “แค่ก ๆ”

      ในขณะที่ฉันคุยกับคริสอยู่นั้นเสียงไอค่อกแค่กก็ดังขึ้นมา ฉันกับคริสหันไปมองทันทีก็เห็นว่าเป็นพี่อ้นนั้นเอง

      “พี่อ้นหมอว่าไงบ้างครับ”คริสถามขึ้น

      “ให้น้ำเกลือขวดเดียวแล้วนอนพักสองวันก็กลับบ้านได้”พี่อ้นตอบกลับมาอย่างไม่ใส่ใจ

      “ครับ เชอรีนวันนี้นั้นเรามารับไหม”

      “แค่ก ๆ”

      แล้วอาการไอก็ดังขึ้นมาอีกรอบ ฉันหันไปมองอีกรอบก็เห็นพี่อ้นทำหน้าไม่ใส่ใจ ส่วนพี่แบมบี้นั่งเหมือนกลั้นขำอยู่

      “พี่เป็นอะไรมากเปล่าครับ ไปหาหมอไหมเดี๋ยวผมดูแลเชอรีนให้”

      “ไม่ต้อง !!!

      คริสพูดจบพี่อ้นก็สวนขึ้นมาทันที คริสหันมามองหน้าฉันก่อนจะยักคิ้วให้อย่างแปลกๆ ก่อนจะหันไปคุยกับพี่อ้นต่อ

      “ไม่เป็นไรครับถ้าพี่เกรงใจ ยังไงผมกับเชอรีนก็สนิทกันอยู่แล้ว”คริสว่าพร้อมกับจับมือฉันเอาไว้ ฉันมองด้วยอาการงงสุดขีด

      “บอกไม่ต้องก็ไม่ต้องไง ผู้หญิงคนเดียวฉันดูแลได้”พี่อ้นพูดเสียงแข็งพร้อมกับเดินมาดึงมือฉันกับคริสออก พี่แบมบี้ที่ดูตื่นๆตอนแรกก็หัวเราะออกมาเบาๆ ฉันมองทั้งหมดด้วยอาการงงและอึนสุดๆ

      “อ๋อครับ นั้นผมให้พี่ ดูแล ผู้หญิง ของพี่ดีกว่า ผมกลับก่อนละกันนะครับ”คริสบอกออกมาพร้อมกับส่งยิ้มแปลกๆให้ฉันก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันผ่านหน้าพี่อ้นมาแล้วก็

      จุ๊บ

      “เราไปแล้วนะเชอรีน” คริสบอกพร้อมกับจูบหัวฉันเบาๆ ฉันที่ถูกจุ๊บไปนั้นก็ยังคงอึ้งกับการกระทำของเพื่อนตัวเองอยู่

      “อืม”ฉันขานรับเบาๆพร้อมกับมองตามคริสที่ยักคิ้วให้พี่อ้นหนึ่งทีก่อนเดินออกจากห้องไป

      “เฮ้อ”พี่อ้นถอนหายใจออกมาเสียงดังก่อนจะมองหน้าฉันนิ่ง ฉันที่เห็นดังนั้นก็หันหลังล้มลงตัวนอนไม่สนใจพี่เขาทันที

      “หึ ท่าทางจะมีเรื่องแล้วแหะ เรากลับบ้านก่อนละกัน”

      “เราไปส่ง”

      “ไม่ต้องหรอกอ้น เคลียร์ตรงนี้ดีกว่าไหม”

      “ไม่เห็นมีอะไร เราไปส่ง”

      “อืมก็ได้”

      แล้วเสียงของคนสองคนก็ดังหายไปฉันลุกขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะมองไปยังหน้าประตู คำพูดของพี่แบมบี้เมื่อกี้มันแปลกๆยังไงไม่รู้  มีเรื่องหรอเรื่องอะไรกันอีกละ แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกเจ็บๆในหน้าอกจัง มันจิ๊ดนะที่เห็นพี่อ้นไปส่งพี่แบมบี้อย่างนั้น แต่ฉันไม่มีสิทธิ์ไปหึงพี่เขาซักหน่อย

      “อ้าก เชอรีนบ้าเอ๋ย เธอไม่มีสิทธิ์นะ”ฉันบ่นกับตัวเองก่อนจะล้มลงตัวนอนอย่างเบื่อหนาย เมื่อไหร่ฉันจะเลิกคิดฟุ้งซ่านเรื่องของพี่เขาซักทีเนี่ยะ ฉันจะได้เลิกรักเขาซักทีไม่อยากเจ็บอย่างนี้อีกแล้ว

      ปึง

      เสียงปิดประตูดังขึ้นฉันกระเด้งตัวขึ้นมาทันที

      “ไม่นอนพักหรือไง”พี่อ้นถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นฉันลุกขึ้นมา

      “นอนค่ะ แต่นอนไม่หลับ”ฉันบอกไปตามความจริงก็คนมันนอนไม่หลับนิหน่า

      “อืม อยากได้อะไรไหมพี่จะไปเอาให้”

      “ไม่คะ”

      “....”

      “.....”

      และเราสองคนก็เข้าสู่ความเงียบ

      “พี่มีเรื่องอยากถาม”

      พี่อ้นทำลายความเงียบขึ้นมา ฉันมองหน้าพี่อ้น

      “อะไรคะ”

      “พี่ไม่รู้นะว่าจะล่วงเกินไปรึเปล่า เชอรีนกับไอ้ฝรั่งนั้นเป็นอะไรกัน”

      “คริสนะหรอคะ”

      “ใช่”พี่อ้นพูดเสียงเย็นจนฉันรู้สึกขนลุกไปหมด

      “เราเป็นเพื่อนกันคะ”ฉันตอบไปตามความจริง พี่อ้นมองฉันทันทีก่อนที่คิ้วของพี่เขาขมวดเข้าหากัน

      “เพื่อน ?

      “คะ”

      “หึ เหมือนเพื่อนกันมาเลยนะ “

      “ทำไมละคะ”

      “ก็ไม่ทำไมหรอกแต่ดูจากที่มันจับมือถือแขนเชอรีนแล้ว คงมากกว่าเพื่อน”พี่อ้นพูดพร้อมกับแค่นหัวเราะออกมาฉันรู้สึกหน้าตึงขึ้นมาทันที

      “แค่นั้นเพื่อนก็ทำได้คะ”

      “จับมือถือแขนอ่ะนะ นั้นเรียกว่าเพื่อนทำกันหรอไงแล้วเมื่อกี้อีกมันจูบหัวเธอ นั้นเขาเรียกว่าเพื่อนหรือไง”พี่อ้นพูดเสียงดังขึ้นมาจนฉันตกใจ ถึงกับผงะทันที

      “แล้วมันยังไงคะพี่ พี่ก็เห็นว่าคริสเขาเป็นฝรั่งเรื่องอย่างนั้นมันก็ธรรมดา”

      “นั้นเรื่องที่เธอแอบไปไหน มาไหนกันสองคนแอบไปทำอะไรกันมันก็ธรรมดาอย่างนั้นหรอ”

      ฉ่า

      สติฉันแทบขาดพรึงเมื่อพี่อ้นพ่นคำพูดพวกนั้นออกมา ฉันจ้องหน้าพี่อ้นนิ่ง ส่วนพี่อ้นก็เดินเข้ามาประชิดตัวฉันทันที

      “พี่คิดว่าคริสกับเชอรีนไปทำอะไรกันหรอคะ”

      “แล้วอะไรที่พวกเธอไปทำละ รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่สบายยังจะดันด่นไปหามันอีก”

      “พี่อ้น !!!

      คำพูดของพี่อ้นทำให้ฉันแทบอยากจะตายไปตรงนั้นคำพูดที่เสียดแทงจิตใจฉัน จนฉันรู้สึกว่าน้ำตาตัวเองกำลังจะไหลออกมา

      “พี่พูดความจริงใช่ไหม”

      “สมองพี่คิดได้แต่อย่างนั้นหรือไง สมองพี่คิดได้แค่นั้นหรอ”ฉันเถียงกลับไป พี่อ้นชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าน้ำตาของแนมันเริ่มไหลออกมา

      “แล้วที่พี่คิดมันใช่ไหมละ”

      “พี่มันโง่ โง่มากเลยหรือไง ถึงดูอะไรไม่ออกเลย พี่บอกว่าเชอรีนไปกับคริสแล้วพี่กับพี่แบมบี้ละที่จู๋จี๋สวีตกันไม่อายฟ้าอายดินเมื่อกี้หรือก่อนหน้านี้ พี่ก็ทำได้ทำไมเชอรีนทำไม่ได้ เราสองคนอายุห่างกันแค่สองปีเท่านั้นนะคะ”

      “เชอรีน !!

      “เชอรีนโตแล้ว เชอรีนจะทำอะไรกับคริสก็ได้ พี่จะมายุ่งยากทำไม”

      “เชอรีน !!

      “แต่เชอรีนอยากจะบอกพี่เลยพี่ มันโง่ โง่ที่สุด ฮึก” ฉันปล่อยน้ำตาออกมาทันที พี่อ้นตกใจมากขึ้นกว่าเดิมฉันร้องไห้หนักขึ้น

      “เชอรีน”

      “เชอรีนผิดหรอ เชอรีนผิดหรือไงที่เชอรีนอยากจะลืมพี่ ฮึก เชอรีนแค่ต้องการใครซํกคนมาแทนที่พี่”ฉันไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปแต่ความน้อยใจ ทำให้ฉันพูดทุกสิ่งทุกอย่างในใจของฉันจนหมดพี่อ้น ตกใจไม่น้อยมองหน้าฉันด้วยความปวดร้าวทันที

      “ฮึก พี่ไม่รู้เลยหรอ ว่าเชอรีนชอบใครรักใคร พี่ไม่รู้เลยหรอไง ฮึก พี่อยากยัดเยียดเชอรีนให้กับคริสมากเลยหรอ”

      “....”

      “รังเกียจผู้หญิงคนนี้มาเลยหรอ”

      “มัน ไม่”

      “ฮึก พี่อยากรู้ใช่ไหมว่าเชอรีนรักใคร เชอรีนมันรักพี่ไง รักมาด้วยรักโดยที่ไม่รู้ว่าพี่จะมาสนใจคนนี้ไหม พี่เฉยชามาตลอดพี่รู้ไหมว่ามันทำให้เชอรีนเจ็บ ฮึก”

      “เชอรีน”

      “ฮึก แต่ไม่ต้องกลัวนะพี่อ้น  ถ้าหมดภารกิจของเชอรีนเมื่อไหร่ เชอรีนจะไปให้ไกลจากพี่ แล้วเชอรีนก็จะเลิกรักผู้ชายอย่างพี่ให้ได้ ฮึก “

      “เชอรีน”

      “ฮึก พอใจแล้วใช่ไหม พี่จะได้ไม่ต้องมาหนักใจ ฮึก แล้วพี่ก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว เพราะต่อไปเชอรีนจะไม่ยุ่งกับพี่ เชอรีนจะเริ่มชีวิตใหม่ ฮึก”

      “เชอรีน”

      “ฮึก ออกไปก่อนได้ไหม ออกไปก่อนได้ไหม!!”ฉันไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปบ้างแต่ตอนนี้หัวใจฉันรู้สึกเจ็บมากมายและตอนนี้หัวของฉันก็แทบระเบิดออกมาในที่สุด

      “เชอรีน”

      “ออกไปก่อนได้ไหม เชอรีนปวดหัว!!”ฉันกรีดร้องออกไปพี่อ้นตกใจไม่น้อย

      “เชอรีน”

      “ฮึก กริ๊ด ปวดหัว โอ๊ย”อาการป่วยของฉันทำพิษขึ้นมาทันที ฉันแทบจะทรุดลงไปนอนกองตรงนั้นพี่อ้นที่เห็นเข้ามาประคองแนทนทีพร้อมกับเรียกหมออย่างรวดเร็ว

      “หมอ พยาบาลใครอยู่แถวนี้ช่วยผมที”

      “โอ๊ย”

      “รีน ใจเย็นๆ”

      “โอ๊ย ฮึก”

      “รีน”

      ปึง

      “เกิดอะไรขึ้นค่ะ”

      เสียงนั้นเป็นเสียงสุดท้ายที่ฉันฉันได้ยินก่อนที่สติฉันจะดับวูบไป

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×