แผนร้ายพิชิตใจพี่ชายตัวแสบ - อ้นเชอรีนTS9 (6) 100%
การแอบรักคนคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยนะยิ่งเป็นเพื่อนพี่ชายด้วย แล้วฉันจะสมหวังได้ยังไงนะเมื่อพี่ฉันหวงฉันขนาดนี้แถมคนที่ฉันแอบชอบยังเฉยชาใส่ฉันอีก
ผู้เข้าชมรวม
5,737
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ตกเย็น
ฉันต้องกลับบ้านเองด้วยเหตุผลที่ว่า ฉันไม่อยากเจอหน้าพี่อ้นและพี่แบมบี้ อ้า แต่สุดท้ายยังไงฉันก็ต้องนอนคอนโดเดียวกับเขาอยู่แล้วนิ
“แกแน่ใจนะว่าจะกลับบ้านเอง”ดีถามฉันหลังจากออกมาส่งฉันที่ป้ายรถเมล์
“อืม แกกลับบ้านดีๆละดี ถ้าพี่ดิวทำอะไรก็บอกนะ”ฉันบอกเพื่อนตัวเองทันทีเมื่อรู้ว่าพี่ชายฉันกำลังรุกหน้าจีบเพื่อนฉันอยู่ ไปเร็วกว่าที่ฉันคิดอีก
“อืม ฉันกับพี่ดิวนะช่างเถอะ แกนั้นแหละ อย่าร้องไห้อีกนะ”
“อืม แกเห็นฉันเป็นเด็กขี้แงหรือไง”ฉันบอกเพื่อนตัวเองขำๆ
“จ้า ฉันรู้ว่าแกนะไม่ใช่เด็กขี้แงหรอกแต่แกนะมันพวกร้องไห้หนักมากกว่า”ดีแซวฉันยิ้มๆ ฉันหันไปหน้าบึ้งใส่เพื่อน ดีก็เลยได้แต่ยิ้มๆแล้วก็เดินกลับไป
“เฮ้อ”ฉันถอนหายใจออกมาเมื่อเพื่อเดินกลับไปแล้ว ฉันนั่งลงตรงที่นั่งก่อนจะนั่งรอรถ ฉันไม่อยากกลับไปที่คอนโดนั้นเลยฉันกลัวว่าพี่อ้นจะพาพี่แบมบี้มาอยู่ด้วยแค่นี้ฉันก็ช้ำตายอยู่แล้ว แถมยังมีเรื่องวุ่นวายที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรอยู่เลย ทุกคนเหมือนมีอะไรปิดบังฉันรวมกระทั่งแม่ด้วย
“อ้าว เชอรีน”เสียงหนึ่งทักขึ้นฉันจึงหลุดจากห้วงความคิดของตัวเองแล้วเงยหน้ามองก็พบกับคนที่รอยยิ้มสว่างสดใสทันที
“คริส”
“จะกลับบ้านหรอครับ”เขาถามฉันจึงพยักหน้าตอบ
“ให้ผมนั่งรอเป็นเพื่อนไหม คุณกลับบ้านทางไหนละ”
“ฉันจะไปที่คอนโดใกล้ๆมหาลัยเนี่ยะแหละ”ฉันตอบก่อนจะส่งยิ้มไปให้เขา คริสนั่งลงข้างๆฉันก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มที่สุดใส
“ผมก็อยู่คอนโดนั้นนะ ทำไมเราไม่เคยเจอกันเลยหละ”
“ฉันพึ่งมาอยู่กับ.....พี่นะ”ฉันตอบพร้อมกับนึกไปถึงพี่อ้น อยู่ดีๆหัวใจของฉันก็เต้นเหมือนรู้สึกกำลังจะตายทันที
“อ้าวหรอ นั้นเราสองคนก็กลับบ้านพร้อมกันได้นะ ผู้หญิงกลับคนเดียวมันไม่ดีหรอก”คริสบอกฉัน
“ขอบใจนะที่นายเป็นห่วง”ฉันยิ้มตอบ
บรื้น
เสียงรถยนต์เร่งเครื่องดังขึ้น ฉันละสายตาจากคริสทันทีก่อนจะหันไปเห็นรถที่คุ้นตากำลังเร่งเครื่องอยู่
“พะ พี่ อ้น”ฉันพูดตะกุกตะกักออกไป ก่อนจะมองเลยเข้าไปในรถเห็นพี่แบมบี้นั่งอยู่ข้างพี่อ้น แล้วกำลังมองฉันอยู่ส่วนพี่อ้นก้มองฉันก่อนจะเบือนหน้าหนีไป
“นั้นใช่พี่เชอรีนรึเปล่า”คริสถามขึ้น ฉันจึงพยักหน้าลงก่อนจะมองพี่อ้นค้างเอาไว้ ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะโดนอะไรซักอย่างแน่นอน
“ทำไมเชอรีนไม่กลับบ้านกับพี่ละครับ”
“พี่เขามากับแฟนคะ”ฉันตอบก่อนจะเบือนหน้าหนีเมื่อรู้สึกว่าอยู่ดีๆตัวเองก็กำลังจะร้องไห้
“เชอรีน”คริสเรียกฉันเบาๆ ฉันหันหน้าหนีก่อนจะหลบสายตาจากพี่อ้นและคริส
บรื้น
เสียงรถยนต์เร่งเครื่องอีกครั้ง ฉันหันกลับไปมองเมื่อรู้ว่าน้ำตาตัวเองเริ่มไม่ไหลแล้ว พี่อ้นคงกำลังรอฉันให้ขึ้นรถไปกับเขา แต่ฉันไม่อยากเห็นภาพบาดตาที่มันทำร้ายหัวใจฉัน ฉันลุกขึ้นช้าๆก่อนจะจับมือคริสแล้วให้เขาเดินตามฉันไป
“เชอรีนจะไปไหน”คริสถามทันทีก่อนจะฝืนตัวเอาไว้
“เชอรีนอยากเดินกลับ คริสจะไปกับเชอรีนไหม”ฉันถามเสียงสั่นเมื่อหันไปเห็นว่าตอนนี้บนใบหน้าพี่อ้นขมวดคิ้วมากแค่ไหน ฉันอยากนั่งรถคันเดียวกับเขาแต่ไม่อยากนั่งรถคันเดียวกับผู้หญิงของเขา ฉันมันเลวเกินไปไหม
“ไปสิ เชอรีนเป็นอะไรรึเปล่า”คริสถาม
“เปล่า เราเดินไปกันเถอะนะ”ฉันบอกช้าๆก่อนจะเดินนำเขาไป คริสเดินตามฉันมาช้าๆเหมือนรู้ว่าฉันกำลังรู้สึกไม่ดี
บรื้น
บรื้น
เสียงรถยนต์ยังคงเร่งต่อไปแต่ฉันไม่สนใจเสียงมัน ฉันเดินไปอย่างช้าๆด้วยหัวใจที่มันทรมานมากเหลือเกิน ฉันอยากเป็นเจ้าของเขาคนเดียวไม่อยากให้ใครครอบครองเขานอกจากฉันเพียงคนเดียว แต่มันจะมีวันนั้นของฉันบ้างไหม
เผาะ
ไม่รู้เมื่อไหร่ที่น้ำตาของฉันมันไหลลงมา ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันตัวกำลังสั่น และเสียงสะอื้นดังออกมา
“เชอรีน”คริสเรียกฉันแผ่วเบาราวกับปลอบฉัน เขากำลังรู้เรื่องนั้นเรื่องที่ฉัน แอบรักเขาผู้ชายที่ใจร้ายสำหรับฉัน
“ฮึก อย่าสนใจเชอรีนนะ คริสอยู่เฉยๆนะ”ฉันบอกก่อนจะปาดน้ำตาตัวเองเบาๆ ตัวเองบอกดีไปว่าจะไม่ร้องไห้แต่เพียงเห็นเขาอยู่ด้วยกันฉันก็เหมือนตายทั้งเป็นแล้ว การกระทำเมื่อเช้าที่เขาทำมันทำลายล้างไปด้วยผู้หญิงคนนั้นที่พี่อ้นแสดงเป็นเจ้าของแล้ว
“ฮึก”
“......”
ฉันไม่รู้ว่าเราสองคนเดินกันมานานเท่าไหร่ฉันไม่รู้สึกเมื่อยขาเลยซักนิด แต่มันรู้สึกปวดหนึบที่หัวใจมากกว่า ฉันรู้สึกเจ็บปวดมากเหลือเกินฉันอยากจะหนีออกมาจากตรงนั้นเหลือเกิน ที่ที่ฉันหลงทางมันอยู่ตั้งสามปี
“ฮึก”
เปรี้ยง
อยู่ดีๆฟ้าฝนก็เป็นใจมันเทกระหน่ำลงมา ซ่อนน้ำตาของฉันเอาไว้
“เชอรีน รีบเถอะนะครับฝนตกแล้ว”คริสบอกก่อนจะจับมือฉัน ฉันมองหน้าคริส คริสมองฉันด้วยความอึ้งเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบางๆให้ฉัน
“รีบเถอะนะครับ เดี๋ยวจะเป็นอะไรเอา “คริสบอกก่อนจูงมือฉันพร้อมกับกึ่งวิ่งให้เขาที่หลบฝน แต่ด้วยความเหม่อลอยของฉันมันทำให้ฉัน
ฟุบ
“เชอรีน เจ็บมากไหม”คริสถามทันทีที่เห็นฉันล้มลงไป
“ไม่ คริส เชอรีนไม่เจ็บฉันบอกเสียงสั่น แต่คริสคงรู้ว่าฉันเจ็บตรงไหนมากกว่าจึงได้แต่จับแผลที่หัวเข่าของฉันที่ตอนนี้มีเลือดไหลออกมามากมาย
“ไม่เจ็บนะครับ รีบกลับกันเถอะ”เขาบอกก่อนจะพยุงฉันลุกขึ้น ฉันเซไปเล็กน้อยแต่ก็พยุงตัวเองขึ้นมา
“ขอบคุณนะคริส”ฉันบอก
“ไม่เป็นไรครับ เราเป็นเพื่อนกัน”คริสตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใสของเขา
“.....”ฉันมองหน้าคริสนิ่ง คริสก็ยังส่งยิ้มมาให้ฉันก่อนจะค่อยๆพยุงตัวฉันจนถึงคอนโด
“ถึงแล้ว ขึ้นไว้นะครับ”คริสถามทันทีที่อยู่หน้าลิฟต์
“ไหวสิ “ฉันบอกพร้อมกับค่อยๆก้าวเข้าลิฟต์ไป ส่วนคริสก็มองตามก่อนจะเดินเข้ามาแล้วกดชั้นที่เขาอยู่
“มาหาผมได้นะ ผมอยู่ห้อง 246 “เขาบอกก่อนจะเดินออกไปเมื่อถึงชั้นที่อยู่ของห้องเขาแล้ว ฉันพิงพนังลิฟต์ทันทีอย่างเหนื่อยใจ
กิ๊ง
พอลิฟต์มาถึงฉันก็เดินออกมาช้าและค่อยๆพยุงตัวเอง ตอนนี้บาดแผลที่ฉันได้รับมันกำลังส่งผลมาหาฉันแล้ว แล้วรู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะเป็นไข้ด้วย
ก๊อก ๆ
ฉันเคาะประตูห้อง สักพักพี่อ้นก็เปิดออกมาก่อนจะตกใจกับสภาพของฉัน แต่แล้วก็ถามหน้านิ่งตามสไตล์เขาแล้วก็หลีกทางให้ฉันเข้าห้อง
“ใครมาส่ง”เขาถามเสียงเรียบแต่ฉันรู้สึกว่ามันเป็นเสียงที่อันตรายพอสมควร
“คริส”ฉันตอบเบาๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา
“พึ่งรู้จักกันทำไมต้องให้เขามาส่งถึงห้องด้วย”พี่อ้นถามเสียงเรียบต่อแต่ฉันรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังโกรธ ดูได้จากแววตาอันวาวโรจน์ของเขา
“คริสอยู่ที่นี้ เราเลยเดินกลับมาด้วยกัน”ฉันตอบกลับเสียงเรียบก่อนจะดึงกระโปรงตัวเองให้คลุมเข่า เพื่อไม่ให้พี่อ้นเห็นแผลนั่น
“แค่นี้เธอก็ให้เขามาส่งที่ห้องแล้วหรอ เธอเห็นฉันแล้วทำไมถึงไม่ขึ้นรถมา”
“อยากลอง เดิน ซึ่งก็ไม่ไกล”
“เชอรีน เธอกำลังทำให้ฉันโมโหนะ”พี่อ้นเริ่มขึ้นเสียง ฉันมองหน้าเขาก่อนจะหลบสายตาของเขาเมื่อรู้สึกว่าน้ำตาที่หยุดไหลเมื่อกี้กำลังไหลออกมา
“พี่ไม่ต้องกังวลหรอก ไม่ต้องกลัวว่าพี่ดิวจะมาทำร้ายพี่ถ้าหากน้องเขาเป็นอะไร”ฉันพูดประชดใส่ อย่างไม่ได้ตั้งใจ พี่อ้นจ้องหน้าฉันทันที
“เชอรีน!!!”
“พี่หิวไหม ฉันจะทำอะไรให้กิน”ฉันรีบบอกปัด
“พี่กำลังคุยกับเธอเกี่ยวกับไอ้หน้าอ่อนนั้นอยู่นะ”
“เขาชื่อคริสคะ”ฉันตอบก่อนจะเบือนหน้าหนีเมื่อเห็นว่าแววตาของพี่อ้นกำลังลุกโชน
“เฮ้อ เวรเอ๋ย”พี่อ้นสถบออกมา
“พี่จะกินอะไรไหม เชอรีนจะไปทำให้กิน”ฉันถามอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นแล้วเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะล้ม
“เธอ!!!เป็นอะไร”พี่อ้นถามเสียงหลงพร้อมกับประคองร่างฉันเอาไว้
“เปล่า แล้วพี่แบมบี้ละ”ฉันถาม แต่คำถามนั้นมันกำลังกรีดแทงหัวใจของฉันช้าๆ
“ไปส่งมาแล้ว”เขาตอบเสียงเรียบก่อนจะมองหน้าฉัน
“คะ พี่ดูรักกันดีนะคะ”ฉันพูดก่อนจะดันพี่อ้นออกแล้วก็ถอยหลังจะเดินไปแต่อยู่ดีๆพี่อ้นก็จับตัวฉันเอาไว้
“เธอมีอะไรจะบอกกับฉันรึเปล่า”พี่อ้นถามพลางสบตากับฉัน ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะร้องไห้ มันกำลังจะร้องไห้แล้วจริงๆ
“ไม่มีนิคะ”ฉันเลี่ยงตอบก่อนจะเบือนสายตาหนี
“พี่ว่าเธอมีแน่นอน แต่เธอไม่พูดออกมาซักที ทำไมเธอถึงเลือกที่จะไม่พูด กลัวอะไรอยู่หรือไง”พี่อ้นถามพร้อมกับจับหน้าฉันให้มาจ้องเขาเหมือนเดิม ฉันรู้สึกใจเต้นแรงมากเมื่ออยู่ใกล้เขาแบบนี้ ให้ตายซิ ฉันไม่มีทางไปแย่งเขามาจากพี่แบมบี้หรอก ฉันไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน
“ไม่มีจริงๆคะ”ฉันตอบ
“เชอรีน!!!”พี่อ้นเริ่มขึ้นเสียงก่อนจะบีบต้นแขนฉันแน่น
“ปล่อยเถอะคะ เดี่ยวเชอรีนจะไปทำอาหารให้”ฉันบอกก่อนจะดันตัวเขาออกอีกครั้ง พี่อ้นขืนเล็กน้อยแต่ก็ยอมปล่อยฉัน
ฟุบ
แต่ยังไม่ทันได้เดินหนีเขาก็อุ้มฉันขึ้นทันที
“พี่จะทำอะไร!!!”ฉันถามด้วยใบหน้าแตกตื่น พี่อ้นอุ้มฉันลอยขึ้นทันทีก่อนจะเดินพาร่างฉันไปยังห้องนอน
“อยู่เฉยๆ”
“แล้วพี่จะทำอะไร”ฉันถามเสียงสั่น ก่อนจะจ้องหน้าเขา พี่อ้นมองหน้าฉันเล็กน้อยก่อนจะพาตัวเองเดินเข้าห้องนอนไปก่อนจะวางฉันลงบนเตียงช้าๆ
“อยู่เฉยๆ เดี๋ยวพี่มา”พี่อ้นพูดเสร็จก็เดินออกจากห้องไปฉันมองตามไปอย่างงงๆก่อนที่จะกระจ่างเมื่อพี่อ้นเดินกลับมาพร้อมกับกล่องยา
“ล้มทำไมไม่บอก”เขาถามฉันเสียงเรียบก่อนจะนั่งลงบนเตียงแล้วดึงขาฉันไป
“มะ ไม่ ต้องก็ได้”ฉันรีบหดขาหนีทันที พี่อ้นมองกลับมาด้วยสายตาไร้อารมณ์ก่อนจะดึงขาฉันกลับไป
“อยู่เฉยๆ พี่จะทำแผลให้”พี่อ้นบอกก่อนจะจับขาฉันเอาไว้แน่น ฉันมองหน้าเขาที่ตอนนี้กำลังก้มทำแผลที่หัวเข่าให้ฉันอย่างแผ่วเบา
ตึกตัก ตึกตัก
เสียงหัวใจของฉันมันกำลังเต้นดังออกมา มันเต้นแรงมากจริงๆ
“ไม่เจ็บใช่ไหม”พี่อ้นถามขึ้นมาทำให้ฉันต้องหลุดจากห้วงความคิดของตนเองก่อนจะมองหน้าพี่เขา
“มะ ไม่คะ”
“อืม ทำไมเธอไม่บอกว่ามีแผลมาถ้าพี่ไม่เห็นเลือดพี่จะรู้ไหม”พี่อ้นถามเสียงเย็นจนฉันรู้สึกแปลกๆ
“ก็ มะ ไม่ได้เป็นอะไรมากนิคะ”ฉันตอบพี่อ้นที่กำลังก้มลงทำแผลอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมาทันที
“เฮ้อ ให้ตายสิเชอรีน”พี่อ้นสถบออกมาเยาๆก่อนจะก้มลงไปทำแผลให้ฉันต่อ เมื่อพี่อ้นปอดปาสเตอร์ยาเสร็จฉันก็รีบหดขากลับมาทันที
“ขอบคุณพี่มากนะค่ะ”ฉันตอบก่อนจะลุกขึ้นจากที่นอนแต่ยังไม่ทันได้ลุกร่างกายที่แสนอ่อนแอของฉันก็ทรุดขึ้นมาทันที
“เชอรีน”พี่อ้นประคองร่างฉันไว้ทันที
“เอ่อ เชอรีนไม่เป็นอะไรพี่ ปล่อยเถอะคะ”ฉันรีบพูดก่อนจะค่อยๆดันร่างพี่อ้นออก
“เฮ้อ ให้ตายซิ เธอตัวร้อนรู้รึเปล่า”พี่อ้นพูดก่อนจะจับมือฉันมาทาบที่ใบหน้าของฉันเอง
“เดี๋ยวกินยาก็คงหายแหละคะ”ฉันรีบบอกก่อนจะค่อยดันพี่อ้นออกจากตัวอีกรอบ แต่พี่อ้นก็ไม่ยอมปล่อยฉันซักที
“เฮ้อ “พี่อ้นถอนหายใจออกมาก่อนจะค่อยๆจับฉันอุ้มขึ้นอีกรอบ
“พะ พี่จะทำอะไรอีกเนี่ยะ”ฉันร้องเสียงหลงเมื่อพี่อ้นอุ้มฉันวางลงบนเตียงอีกรอบ
“นอนซะ เดี๋ยวพี่ไปจัดการเรื่องยาให้”พี่อ้นพูดเสร็จสรรพก็เดินออกจากห้องไปทันที ทำให้ฉันต้องลุกขึ้นมานั่งช้าๆแล้วมองจามเขาไป
“พี่อย่าใจดีได้ไหม ฉันกำลังจะตัดใจจากพี่นะ”ฉันบอกเบาๆไล่ตามหลังเขาไป
“เฮ้อ ให้ตายสิเชอรีน เธอจะหลุดพ้นจากเรื่องบ้าๆนี้ยังไงกันนะ”ฉันบ่นกับตัวเองก่อนจะนอนลงเนื่องจากรู้สึกว่าตัวเองปวดหัวมากเหลือเกินในตอนนี้
“ปวดหัวมากไหม”เสียงของพี่อ้นดังขึ้นทำให้ฉันลืมตาขึ้นมา แล้วก็ค่อยๆลุกขึ้น
“ไม่เท่าไหร่คะ”ฉันบอกทั้งๆที่จริงตอนนี้ฉันรู้สึกปวดมากเลยต่างหาก
“ตากฝนมาเท่าไหร่เนี่ยะ”พี่อ้นบอกเบาๆก่อนจะนั่งลงข้างๆฉัน แล้วก็หยิบยาและแก้วน้ำยื่นมาให้ฉัน
“ขอบคุณนะคะ”ฉันรับมาก่อนจะกลืนยาแล้วก็น้ำตามลงไป
“นอนพักซะนะ คืนนี้เธอไม่ต้องดูแลฉันหรอก”พี่อ้นบอกก่อนจะเดินออกจากห้องไป ฉันมองตามไปก่อนจะล้มลงตัวนอน รู้สึกปวดหัวจิ๊ดๆไปเลย ให้ตายซิ
ผ่านไป ครึ่งชั่วโมง
เพล้ง
ฉันต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงอะไรตกลงลงมาแตกหลังจากที่ตัวเองเผลอหลับไป
“ฉันทำให้เธอตื่นหรอ”พี่อ้นถามขึ้นพร้อมกับเดินออกมาจากห้องน้ำ ฉันมองพี่อ้นพร้อมกับรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาทันที เมื่อพี่อ้นนุ่งผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียวอยู่
“ปะ เปล่าคะ”ฉันรีบเลี่ยงสายตาทันที
“ขอโทษละกันนะ เธอนอนต่อเถอะ”พี่อ้นบอกก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปอีกรอบ
กึก เพล้ง
“อะไรว่ะเนี่ยะ”เสียงของพี่อ้นสถบออกมาดัง ฉันจึงมองเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะใจกล้าลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที
“พี่ ทำอะไร”ฉันถามทันทีเมื่อเดินถึงห้องน้ำรู้สึกว่าตัวเองจะเริ่มเซเล็กน้อยแล้วนะ
“ฉันจะโกนหนวดนะ แต่พอดีมือที่เป็นแผลเมื่อวานมันคงช้ำมากขึ้นมั้ง”พี่อ้นบอกปัดๆก่อนจะพยายามหยิบที่โกนหนวดอีกครั้ง
เพล้ง
“โอ๊ย”
“พี่อ้น !!!”ฉันตกใจสุดขีด ก่อนจะถลาไปหาพี่เขา
“ให้ตายซิ”พี่อ้นสถบออกมา
“พี่ไปทำอะไรกับมันมา ทำไมอยู่ดีๆมันถึงช้ำอย่างนี้”ฉันรีบถามทันทีเมื่อเห็นว่ารอยช้ำเมื่อวานบนมือเขามันขยายมากขึ้นเหมือนไปกระทบกระแทกอะไรมา
“ช่างเถอะ”พี่อ้นบอกปัดก่อนจะดึงมืออกมาจากมือฉัน แต่ฉันก็กลับไปดึงมือนั้นเอาไว้อีกรอบ
“อะไรของเธอ”
“พี่ไปทำอะไรกับมันมาอีก มันช้ำมากกว่าเดิมพี่เห็นไหม”ฉันเริ่มแวดใส่
“ก็บอกแล้วไงว่าช่างมันเถอะ พี่จะโกนหนวดเธอไปพักได้แล้ว”พี่อ้นบอกเสียงเด็ดขาดก่อนจะพยายามหยิบที่โกนหนวดอีกครั้ง
เคร้ง
“พอเถอะคะ เดี๋ยวเชอรีนโกนให้ ไม่น่าเป็นข้างขวาเลย”ฉันบ่นเบาๆก่อนจะหยิบที่โกนหนวดจากพี่อ้นมา แล้วก็ดันให้เขานั่งบนอ่างอาบน้ำ
“ไม่ต้องก็ได้ เธอไม่สบายอยู่”พี่อ้นค้านแต่ฉันก็ยังดื้อดัน
“อยู่เฉยๆนะคะ เชอรีนจะโกนหนวดให้”ฉันบอกก่อนจะไปหยิบครีมโกนหนวดออกมาแล้วแต้มไปยังบนใบหน้าของพี่อ้น
“.....”
“.....”
เราสองคนมองหน้ากันอยู่ดีๆหัวใจของฉันมันก็เต้นแรงมาก ฉันต้องหลบสายตาพี่อ้นทันที
“หลบหน้าพี่ทำไม”พี่อ้นพูดขึ้นมาทำลายความเงียบ ฉันจึงเงยหน้ามองพี่เขาช้าๆก่อนจะส่งยิ้มที่รู้สึกแปลกๆไปให้
“เปล่าคะ อยู่เฉยๆนะคะเดี๋ยวเชอรีนโกนให้”ฉันบอกพี่อ้นก่อนจะจับหน้าพี่เขาเบาๆ แล้วก็ใช้มีดโกนนวดโกนลงไปบนไรหนวดของพี่อ้นช้าๆ
ตึกตัก ตึกตัก
เสียงหัวใจของฉันและพี่อ้นต่างดังขึ้นมาอย่างไม่ได้นัดหมาย พี่อ้นจ้องหน้าฉันนิ่งก่อนที่มือของพี่เขาที่อยู่เฉยๆกำลังยกขึ้นและลูบหน้าฉันเบาๆ ฉันรู้สึกตัวเกร็งไปหมด อัตราการเต้นหัวใจของฉันยิ่งเต้นรัวเมื่อพี่อ้นค่อยๆลูบหน้าฉันช้าๆ
“ตัวหายร้อนแล้วนิ”เขาบอกเบาๆ ฉันจึงได้แต่พยักหน้าลงไม่กล้าพูดอะไรออก
“.....”
“เจ็บมากไหม ที่ล้ม”
“มะ ไม่คะ”ฉันตอบเสียงสั่นเมื่อรู้สึกว่าอารมณ์ของตัวฉันเองกำลังจะเตลิด
“อืม “พี่อ้นตอบกลับมาสั้นๆแต่มือของเขาที่ออยู่บนใบหน้าฉันกลับเลื่อนลงมาโอบกอดเอวฉันเอาไว้ ฉันตกใจเล็กน้อยแต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไรฉันไม่ขัดขืนพี่อ้นเลย
“หนวดยาวเร็วจังนะคะ”ฉันถามทำลายความเงียบ
“เธอรู้ได้ไงว่าหนวดพี่ยาวเร็ว สังเกตพี่เลยหรือไง”
คำตอบของพี่อ้นทำเอาหน้าฉันร้อนวูบ กริ๊ดฉันเผลอพูดอะไรออกไปเนี่ยะ
“หึ ไม่ร้อนหรอ เธอเหงื่อแตกพลั่กเลยนะ”พี่อ้นบอกขำๆก่อนจะโอบเอวฉันให้ขยับมาใกล้ขึ้น
“ไม่คะ”ฉันก้มหน้าตอบก่อนจะจ้องแต่ที่โกนหนวดแล้วโกนหนวดให้พี่เขาอย่างเดียว หัวใจจะออกมาเต้นนอกอกแล้วนี้มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยะ ทำไมบรรยากาศมันพาไปอย่างนี้
“.....”
“....”
เงียบมาก เงียบกินไปแล้ว บรรยากาศอย่างนี้มันช่าง อ้ากกก ฉันกำลังจะเป็นบ้า
“เชอรีน”พี่อ้นเรียกฉันเบาๆทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นไปจ้องหน้าพี่เขา
“คะ”
“เธอรู้สึกว่าการทำอย่างนี้มันเหมือนคนเป็นแฟนกันทำรึเปล่า”
ฉ่า
หน้าฉันแดงมากเลยละตอนนี้ ไม่งั้นฉันไม่รู้สึกร้อนเป็นไฟอย่างนี้ อ้าก
“อะ เอ่อ”
พูดอะไรไม่ออกจริงๆตอนนี้ พี่อ้นบ้าเอ๊ย ทำฉันจะตายแล้ว
“หึ”พี่อ้นยิ้มขำๆก่อนจะโอบตัวฉันให้แน่นขึ้น แล้วในที่สุด ฉันก็ลงไปนั่งตักเขาจนได้
ฉ่า
ร้อนไปหมดแล้วกริ๊ด หัวใจฉันมันเต้นแรงมากเกินไปแล้ว ผู้ชายคนนี้ทำฉันคลั่งตายแล้ว
“เป็นอะไรไป ไม่โกนหนวดพี่ต่อละ”พี่อ้นกระซิบถามเบาๆ ฉันที่นั่งก้มหน้าอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งแล้วก็ปะทะกับสายตาที่ทำให้ฉันแทบละลายไปอยู่ตรงนั้น
“.....”
“ให้ตายซิ”พี่อ้นพึมพำเบาๆข้างหูฉันก่อนจะหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่อยู่ตรงนั้นมาเช็ดครีมโกนหนวดออกไปหมด ก่อนจะกระชับอ้อมกอดฉันให้แน่นขึ้น ฉันรู้สึกว่าในห้องน้ำห้องนี้มันร้อนมากขึ้นกว่าเดิมพันเท่า
“มะ ไม่โกนแล้วหรอคะ”ฉันถามออกไปสั่นๆ พี่อ้นมองหน้าก่อนจะยิ้มให้เล็กน้อยแล้วก็เลื่อนหน้ามาใกล้ฉันมากขึ้น
จุ๊บ
ฉันแทบสิ้นสติเมื่อพี่อ้นหอมแก้มฉันเบาๆ ฉันรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที
“พะ พี่อ้น”ฉันเรียกพี่เขาช้าๆ พี่อ้นมองหน้าเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มที่ทำให้ฉันเป็นเหมือนแมวน้อยเชื่องๆทันที
“ฟังพี่นะ”
“.....”
“ไม่ว่าต่อจากนี้อะไรจะเกิดขึ้น”
“.....”
“พี่อยากขอเธอ”
“.....”
“อย่าพึ่งมอบหัวใจให้ใคร”
“...”
“มอบให้เพียงแค่คนที่อยู่ในหัวใจของเธอตอนนี้คนเดียว”
“....”
“อย่าพึ่งไขว้เขว”
“....”
“เพราะบางครั้ง คนคนนั้น”
“.....”
“กำลังทำสิ่งที่ดี”
“....”
“ที่สุดในชีวิตให้เธอ”
“....”
“ขอให้เธออย่าพึ่งเปลี่ยนใจ”
“...”
“เพราะถ้าหากเธอเปลี่ยนใจไป”
“....”
“เขาคนนั้นก็เจ็บแทบปางตาย”
“....”
“เพราะตอนนี้เขากำลังทำให้เธอและเขามีความสุขที่สุด”
“.....”
“ในอนาคต”
“....”
“ช่วยทำตามคำพูดของพี่ด้วย”
“.....”
“เข้าใจนะครับ”
สิ้นคำนั้นฉันก็พูดอะไรไม่ออกทันที รู้สึกอึนๆไปหมด แถมพี่อ้นยังทำในสิ่งที่ไม่คาดฝันกับฉัน พี่อ้นก้มลงประกบปากฉันทันทีที่พูดจบความร้อนในตัวเขาส่งผลให้ฉันรู้สึกแทบบ้าตายอยู่ภายในอ้อมกอดเขา ความร้อนจากภายในปากส่งถึงฉันอย่างไม่ต้องสงสัย มันเป็นจูบแรกของฉันแทบยังได้จูบกับผู้ชายที่ฉันหลงรัก มันจะมีอะไรที่มีความสุขมากกว่านี้กันนะ หัวใจฉันมันเต้นรัวและเร็วไปหมดแล้ว พี่อ้นไม่ปล่อยให้ฉันได้หายใจเลยยังคงครอบครองริฝีบอกของฉันอยู่อย่างนั้น ฉันที่ไม่รู้ว่าตัวเองแรงหมดไปเมื่อไหร่เมื่อรู้สึกถึงว่าพี่อ้นกำลังจะประคองร่างฉันเอาไว้ จูบทีตอนแรกอ่อนโยนกลายเป็นดั่งไฟร้อน ช่างดูดดื่มอะไรเช่นนี้
“หวานจังนะ”พี่อ้นถอนริมฝีบอกช้าๆก่อนจะพูดคำที่พูดทำให้ฉันหน้าแดงขึ้นอีกเป็นล้านเท่า
“พะ พี่”
“หึ”พี่อ้นหัวเราะออกมาแค่นั้นก็อุ้มฉันขึ้นมาทันที
“พะ พี่จะพาไปไหนคะ”ฉันถามเสียงหลงทันที
“ในห้องน้ำพี่ว่ามันไม่คอยโอเคมั้ง”พี่อ้นตอบเสียงเจ้าเลห์ก่อนจะพาฉันออกมาจากห้องน้ำแล้วก็วางฉันลงบนเตียงช้าๆก่อนที่ตัวเองจะนอนลงทับฉันอีกที แล้วก็ต่อด้วยจูบที่ฉันรู้สึกแทบจะละลายกองเลยไปตรงนั้น
“ไม่ว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้น”พี่อ้นพูดขึ้นมาหลังจากที่ถอนริมฝีปากออก
“....”
“พี่จะบอกว่า”
“.....”
“มันไม่ใช่แค่อารมณ์ชั่ววูบของพี่นะ”
“.....”
“อย่ามองพี่ด้วยสายตาแบบนั้น เพราะมันอาจจะไม่จบเฉพาะคืนนี้”สิ้นคำนั้นพี่อ้นก้มลงปิดปากฉันที่ยังอึนอยู่ก็รู้สึกว่าตัวเองโหว่งๆทันที หัวใจเต้นรัวไปหมดแล้วพี่อ้นกำลังทำให้ฉันคลั่ง พี่อ้นถอนริมฝีปากก่อนจะจับมือฉันเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวส่วนอีกมือหนึ่งก็ลูบไล้ไปทั่วตัวฉัน ส่วนปากนั้นก็ไล้ลงมาสูดดมกลิ่นตัวฉันจากซอกคอ ก่อนจะฝากรอยที่ทำให้ฉันรู้สึกอายเอาไว้
“อืม”ฉันไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไงนอกจากกอดพี่เขาตอบ ฉันกำลังลืมเรื่องที่ตัวเองเครียดเรื่องพี่เขากับพี่แบมบี้กำลังลืมเรื่องทุกอย่างไปหมดสิ้น พี่อ้นไม่ปล่อยฉันออกจากร่างกายเขาเลยซักนิดเดียว แต่กลับกอดฉันเอาไว้แน่นมากขึ้นกว่าเดิม ให้ตายซิฉันกำลังจะขาดอากาศหายใจ
“พี่ไม่ทนแล้วนะ พี่รู้สึกว่าพี่รอนานไปแล้ว”ฉันไม่รู้ว่าพี่อ้นพูดอะไรบ้างรู้แต่ว่าตอนนี้ฉันกำลังมีความสุขที่ได้กอดพี่เขา มีแค่นั้นฉันก็มีความสุขมากเหลือเกินจริงๆ
พี่อ้นเลื่อนมือขึ้นมาแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาของฉันอย่างช้าๆซึ่งมันทำให้ฉันสั่นสะท้านไปทั่วร่างกายเมื่อเสื้อได้ถูกถอดออกมาแล้วฉันก็กระทบกับความเย็นของห้อง พี่อ้นพรมจูบทั่วตัวฉันช้าๆ ก่อนจะฝากรอยเอาไว้เต็มตัวของฉัน แล้วก็เลื่อนปากตัวเองมาประกบปากฉันเอาไว้อีกครั้ง ร่างกายของฉันกำลังกรีดร้อง ในการกระทำของเขา ให้ตายซิ
ก๊อก ก๊อก
แต่ก่อนที่สติของฉันและพี่อ้นจะเตลิดไปมากกว่านี้เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเรียกสติของฉันกลับมาทันที
“พะ พี่อ้นพอก่อนคะ”ฉันรีบดันเขาออกจากตัวพี่อ้นมองหน้าฉันก่อนจะมองไปข้างนอกแล้วก็สถบออกมาเบาๆ
“ใครว่ะ”
“พะ พี่ไปเปิดประตูนะคะ เดี๋ยวเชอรีน จะ จะ แต่งตัวก่อน”ฉันรีบละล่ำบอกอย่างรวดเร็ว
“เฮ้อ ใส่ให้มิดชิดด้วยพี่ไม่อยากให้ใครเห็นถ้าเกิดเป็นไอ้บ้าฝรั่งนั้น”พี่อ้นบอกอย่างหัวเสียก่อนจะเดินนอกจากห้องไป ฉันรู้สึกว่าตัวเองยิ้มออกมาหน่อยๆ เหมือนหัวใจกำลังจะพองออกมา คำพูดนั้นหมายความว่ายังไงกันแน่นะ หึงรึเปล่านะ ฉันยิ้มกับตัวเองก่อนจะจัดการกับตัวเองในการรีบใส่เสื้อผ้าทันที
...................................................................................................
ปึง
ฉันรีบออกมาจากห้องในสภาพที่ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ก็พบว่าคนที่มาคือพี่ดิวกับพี่ตั้มนั้นเอง
“อ้าวพี่”ฉันทักพี่ดิวที่เห็นฉันก็รีบวิ่งมาหาฉันทันที
“ฉันได้ข่าวว่าแกไม่ยอมกลับบ้านกับไอ้อ้นแถมให้ไอ้ฝรั่งมาส่งอีก”
“เขาอยู่คอนโดเดียวกับพี่อ้น”
“ยังไงก็ชั่งทำไมแกไม่ฟังฉันบ้าง หะ”พี่ดิวตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมกับทำหน้างอใส่แล้วก็จับตัวฉันแน่น
“เรื่องแค่นี้พี่ต้องถ่อสังขารตัวเองมาเลยหรอไง”
“เออ” พี่ดิวตอบกลับก่อนจะเดินชนฉันเข้าห้องครัวไป
“ปล่อยดิวมันไปก่อนเถอะเชอรีน ได้ข่าวว่าไม่สบายเป็นไงบ้าง”พี่ตั้มถามพร้อมกับเดินมาหาฉันแล้วก็ลูบหัวเบาๆอย่างที่เคยทำ
“อะแฮ่ม แฮ่ม”อยู่ดีๆพี่อ้นก็กระแอมไอขึ้นมาฉันหันไปมองก็เห็นพี่อ้นกำลังเบนสายตาไปทางอื่น
“ไอ้นี้นิ หึงได้แม้กระทั่งเพื่อน”
“พี่ว่าอะไรนะพี่ตั้ม”ฉันถามเพราะสิ่งที่ฉันได้ยินมันได้ยินไม่ถนัด พี่ตั้มที่เห็นฉันถามก็ทำหน้าเล่อหล่าก่อนจะตอบกลับมา
“เปล่าไม่มีอะไรจ๊ะ”
“อ่า คะ”
“แล้วตกลงเป็นไงบ้าง”
“ไม่เป็นอะไรแล้วคะ”ฉันยิ้มตอบ
“ไอ้อ้น ไปคุยกันข้างนอกหน่อย”พี่ดิวที่เดินกลับมาจากห้องครัวพูดขึ้นก่อนจะเดินออกไปนอกห้องทันที ฉันมองตามพี่ทั้งสองไปอย่างงๆ
“มีอะไรรึเปล่าคะ พี่ตั้ม”ฉันถามพี่ตั้มที่ตอนนี้ก็ยังงอยู่เหมือนกัน
“พี่ก็ไม่รู้นะ ปล่อยมันสองคนไปเถอะ อ้นมันดูแลดีไหมเนี่ยะ”
“ดีคะ”ฉันตอบก่อนจะยิ้มให้
“อืม ดีแล้วถ้าดูแลไม่ดีพี่ว่าตอนนี้ไอ้ดิวมันเอาเชอรีนคืนไปแล้ว”
“555 พี่ดิวนะก็หวงเชอรีนเกินไป ไม่ให้เชอรีนได้เจอกับอะไรเลย เรื่องคริสอีก คริสเป็นคนดีนะค่ะเชอรีนรับประกัน”ฉันบอกกับตั้มอย่างยิ้มๆ พี่ตั้มก็มองหน้าฉันแบบเหยๆเหมือนมีอะไรอึกอัดใจ
“พี่ตั้มค่ะ”ฉันเรียกพี่ตั้ม พี่ตั้มจึงมองหน้าก่อนจะตอบกลับมา
“อะไรหรอ”
“พวกพี่ไม่ได้มีอะไรปิดบังเชอรีนใช่ไหม”ฉันถามออกไปในทันที ก็คนมันอยากรู้นิหน่า พี่ตั้มที่ได้ยินก็ทำหน้าเลอหล่าทันที มันทำให้ฉันยิ่งสงสัยมากกว่าเดิม
“ปะ เปล่าซักหน่อย”พี่ตั้มพูดเสียงตะกุกตะกัก ฉันจ้องหน้าพี่ตั้มอย่างเอาเรื่อง ฉันว่าแล้วมันต้องมีอะไรแน่นอน เหมือนฉันคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องนี้ซะด้วย
“พี่ตั้มคะ”
“ไม่มีอะไรจริงๆจ๊ะ พี่หิวแล้วทำอะไรให้พี่กินหน่อยนะ”พี่ตั้มรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วก็เดินออกจากห้องตามสองคนนั้นไปทันที ฉันมองตามอย่างฉงนใจ มันต้องมีอะไรแน่ๆเลย ทุกคนกำลังมีอะไรปิดบังฉัน ปิดบังฉันแน่นอน
10 นาทีผ่านไป
“ไอ้เวรเอ๋ย”เสียงพี่ดิวสถบดังลั่นข้างนอกห้องทำให้ฉันที่กำลังลงมือทำอาหารถึงกับหยุดชะงัก
“ใจเย็นๆ ไอ้อ้นมันอธิบายแล้วนิ”ตามด้วยเสียงพี่ตั้มที่เหมือนกำลังพูดปลอบ
“ไอ้อ้น เวรเอ๋ยเอ็งก็รู้ว่าข้าหวงขนาดไหน ทำไมว่ะ”
“ดิวใจเย็นๆ ยังไงมันก็รักของมันนะ”
“รู้โว้ย แต่มันยังไม่ถึงเวลานิหว่า”
“เออ ข้ารู้แต่ให้ทำไงได้ ข้าก็หักห้ามใจอยู่เนี่ยะ ทั้งหึงทั้งหวงจะตายอยู่แล้ว”เสียงพี่อ้นดังกลับมา แล้วคำพูดของพวกพี่เขามันทำให้ฉันรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากก็เลยตัดสินใจวางของที่จะทำลงแล้วก็เดินไปที่หน้าประตู
“เออ เวรเอ๋ย”พี่ดิวสถบออกมาเสียงดังอีกรอบ ฉันเดินไปที่ประตูก่อนจะค่อยๆเงียหูฟัง
“เฮ้อ เคลียร์กันลงตัวแล้วใช่ไหม”พี่ตั้มพูด
“เออ แต่ก่อนเคลียร์ขอซักหมัดก่อนเถอะ”
ผัลวะ
ยังไม่ทันที่พี่ดิวพูดจบฉันก็ได้ยินเสียงแรงกระแทก จนฉันรู้สึกตกใจ
“ไอ้ดิวเอ้ย”พี่ตั้มสถบออกมา
“สะใจแล้วใช่ไหม เจ็บนะเนี่ยะหมัดเองเนี่ยะ”ตามด้วยเสียงพี่อ้นพูดเสียงอ่อยๆ ฉันที่ได้ยินว่าพวกพี่เขาต่อยกันก็เดินออกมาดูทันที
“พวกพี่ทำอะไรกัน”
“เชอรีน “ สามหนุ่มพูดขึ้นมาพร้อมกันเสียงดังอย่างตกใจที่เห็นฉันโผล่มา
“ก็ใช่นะสิ ทะเลาะอะไรกันเสียงดังไปถึงในห้อง”
“แกได้ยินอะไรมั้ง”พี่ดิวถามอย่างลุกลี้ลุกลนทันที
“ก็ได้ยินว่าพี่ทะเลาะกันนั้นแหละ พี่ดิวพี่ต่อยพี่อ้นทำไมอ่ะ”ฉันรีบถามทันทีเพราะตอนนี้เลือดออกที่ปากของพี่อ้นแล้ว
“ช่างมันเถอะ มันเรื่อของพี่กับไอ้ดิวนะ”พี่อ้นรีบบอกก่อนจะเดินเข้าห้องไป
“ยังไงพี่ดิว”เมื่อพี่อ้นไม่พูดฉันก็หันไปถามพี่ดิวแทน
“เฮ้อ เวรเอ๋ย ดูแลตัวเองด้วย ไอ้ตั้มกลับ”พี่ดิวพูดก่อนจะเดินหันหลังแล้วกลับไปทันที
“ไอ้พี่ดิว”ฉันตะโกนเรียกแต่พี่ดิวก็ไม่สนใจเดินต่อไปจนถึงหน้าลิฟต์
“ปล่อยมันไปเถอะ เดี๋ยวพี่ดูแลเองไปดูแลอ้นเถอะท่าทางหมัดไอ้ดิวท่าทางจะหนัก”พี่ตั้มบอกก่อนจะวิ่งตามพี่ดิวออกไป ฉันมองตามก่อนจะเดินเข้ามาในห้องก็เห็นว่าพี่อ้นกำลังนั่งอยู่ที่โซฟา
“พวกพี่เป็นอะไรกัน ทะเลาะกันหรอ”ฉันถามออกไปก่อนจะเดินไปหยิบชุดทำแผลมาแล้นั่งลงข้างๆพี่อ้น
“เฮ้อ เปล่านะเข้าใจผิดกันเล็กน้อย”พี่อ้นตอบก่อนจะมองทีวีอย่างไม่สนใจอะไร
“นี้เรียกว่าเล็กน้อยหรือไงนะ หันหน้ามาสิพี่”ฉันบอกแกมบังคับ พี่อ้นที่เห็นฉันเรียกอย่างนั้นก็หันหน้ามา ฉันจึงจัดการกับแผลที่มุมปากเขาทันที
“เจ็บมากไหม”
“ไม่”
“พี่ดิวท่าทางจะหมัดหนักแฮะ”ฉันบอกเบาๆก่อนจะใช้สำลีเช็ดคราบเลือดเขาตรงปาก
“ พี่ขอโทษนะ”พี่อ้นพูดขึ้นมาพร้อมกับจ้องหน้าฉัน ฉันจึงมองพี่เขาอย่างสงสัยทันที
“ขอโทษเรื่องอะไร”
“ก็เรื่องที่เกือบจะเกินเลยก่อนที่ดิวกับตั้มจะมา”คำพูดของพี่อ้นทำเอาฉันหน้าแดงฉาดทันที เขินนะเนี่ยะ ลืมไปเลยนะเนี่ยะว่าเมื่อกี้ฉันกับพี่อ้นเราเกือบจะอะไรๆกันแล้ว
“ชะ ช่างมันเถอะพี่”ฉันรีบบอกก่อนจะรีบทำแผลแล้วนำชุดพยาบาลไปเก็บทันที
“เชอรีน”แต่พี่อ้นกลับเรียกฉันเอาไว้ ทำให้ฉันต้องหยุดเดินแล้วหันมามองทันที
“คะ”
“จำคำที่พี่บอกตอนในห้องนำได้ใช่ไหม”
“จะ จำได้คะ”
“ทำให้ได้นะ”พี่อ้นพูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นแล้วก็เดินเข้าห้องไปทันที ฉันมองการกระทำของพี่อ้นด้วยแววตาสงสัย มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยะ ทุกคนกำลังมีความลับกับฉัน ทุกคนกำลังปิดบังฉัน มันเกิดอะไรขึ้น
......................................................................................................................................................................................
ขอโทษทุกคนนะค่ะที่ช้า 555 ไรต์หายไปตั้งอาทิตย์กว่าๆแหนะต่อไปนี้ไรต์จะอัพในบทความนี้หมดเลยน้าาา
....................................................................................................................................................................................................................
รุ่งเช้า
วันนี้ฉันหยุดเรียน เนื่องจากอาการไม่สบายกำเริบ ค่อกแค่กๆ
(เฮ้อให้ตายซิ รีน ทำไมแกไม่ดูแลตัวเองเลยห๊ะ)เสียงของดีดังลั่นออกมาจากโทรศัพท์จนฉันต้องเอาออกจากหูทันที
“มันเกิดขึ้นแล้วนิ ฉันก็ไม่เป็นอะไรมากด้วย”ฉันบอกกับดี เมื่อดีรู้จากพี่อ้นว่าฉันไม่สบายและไม่ได้ไปมหาลัยดีก็โทรหาฉันทันที แล้วฉันก็ต้องมานั่งสาธยายให้เพื่อนตัวดีฟังว่าฉันเป็นอะไรถึงไม่สบาย
(เฮ้อ เดี๋ยวฉันจดงานเอาไว้ให้ละกัน แล้วถามจริงแกกับคริสอยู่คอนโดเดียวกันหรอเนี่ยะ ตายซิ)
“ทำไมถึงตายละ”
(เฮ้อ ไม่มีอะไรหรอก ดูแลตัวเองด้วยละเดี๋ยวเย็นนี้จะไปเยี่ยม)ดีรีบบอกปัดฉันจึงได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้
“ดี แกไม่มีอะไรปิดบังฉันใช่ไหม”ฉันถามด้วยความกังวล ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเหมือนคนโง่เลยในตอนนี้
(เชอรีน)ดีเรียกฉันออกมาเสียงเบา เหมือนกำลังครุ่นคิด
“แกเป็นเพื่อนของฉันใช่ไหม”
(ถ้าฉันบอกว่ามี แกอยากจะรู้ใช่ไหมว่ามันคืออะไร)ปลายสายตอบมา
“อืม”ฉันตอบออกไปทันที ตอนนี้ฉันไม่อยากดูเป็นเหมือนคนโง่ พี่อ้นก็มีท่าทีที่เปลี่ยนแต่เดี๋ยวสักแปปเขาก็กลับมาเย็นชา และคำพูดของเขาที่พูดกับฉันเมื่อวานมันคืออะไร แล้วไหนจะการกระทำของพี่ดิว พี่ตั้มอีกละ
(นั้น ฉันขอไม่บอกแก แกแค่รู้ไว้อย่างเดียวว่าสิ่งที่เป็นความลับอยู่นี้ มันจะส่งผลดีต่อแก)
“แล้วแกจะไม่ให้ฉันรู้เลยหรือไง”
(ขอโทษนะ แต่เขาคนนั้นไม่ให้ฉันบอกแก อย่าคาดคั้นจากฉันอีกเลยนะเชอรีน)ดีบอกเสียงอ่อน จนฉันได้แต่ถอนหายใจออกไป
“อืม แกไปเรียนเถอะ”ฉันบอกก่อนจะวางสายลง ความรู้สึกของฉันมันตีกันวุ่นวายไปหมด ทุกคนกำลังมีความลับกับฉัน และความลับนั้นมันส่งผลต่อตัวฉันด้วย ฉันจะทำยังไงให้ฉันได้รู้ความลับนั้นดี
ตกเย็น
วันนี้ฉันนอน แล้วก็นอนทั้งวันจริงๆ ไข้ที่เป็นมาก็ลดลงแล้วเรียบร้อย แต่อาการปวดหัวตึบๆของฉันก็ยังอยู่เหมือนเดิม ฉันตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะเตรีมอาหารเอาไว้ให้พี่อ้นและพวกพี่ๆและดีที่อีกไม่นานก็คงจะมาหาฉัน ฉันเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นมากขึ้น ความรู้สึกเพลียของร่างกายยังวิ่งผล่านอยู่ในร่างกายของฉัน นี้ขนาดนอนเยอะแล้วนะ ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำเช็ดหน้าให้แห้งแล้วก็เดินออกมาก่อนจะเปิดตู้เย็นเพื่อที่จะหาอาหารที่จะทำในวันนี้ และเมื่อเปิดดูก็พบว่ามันไม่มีอะไรเหลืออยู่ในตู้เย็นเลย
“พี่อ้นลืมซื้อของมาหรือไงนะ”ฉันบ่นอุบอิบก่อนจะพาสังขารของตัวเอง ลงมาข้างล่างของคอนโด ฉันเดินเข้าร้านค้าภายในคอนโดที่มีของสดมากมายขายอยู่ ฉันหยิบของออกมามากมายเพราะรู้ว่าวันนี้มากันหลายคนคงจะกินเยอะกันอยู่ แต่ดูเหมือนฉันจะพาร่างกายตัวเองมาทรมานเพราะอยู่ดีๆอาการปวดหัวที่เริ่มทุเลาลงก็กลับมาปวดมากกว่าเดิม
“โอ๊ะ”ฉันรู้สึกเซเล็กน้อยจนต้องจับชั้นวางของเอาไว้แน่น รุ้สึกว่าตัวเองเหมือนอยากจะอ้วกเต็มทนแล้วตอนนี้ ให้ตายซิ ไม่น่าพาตัวเองมาทรมานเลย
“โอ๊ะ”ฉันต้องร้องออกมาอีกครั้งเมื่อตัวเองทำท่าจะล้มลง อ้ากเกลียดตัวเองจริงๆแค่ตากฝนแค่นี้ฉันก็หวัดกินจะตายแล้ว
“เชอรีน !!”เสียงหนึ่งเรียกขึ้นฉันจึงค่อยๆพยุงตัวเองหันไปมองก็พบว่าเป็นคริสนั้นเอง
“อ้าว คริส” ฉันทัก
“เชอรีนเป็นอะไรไปครับ ทำไมดูหน้าซีดจัง”คริสบอกก่อนจะค่อยมาพยุงตัวฉัน
“เป็นหวัดเล็กน้อยนะ”ฉันบอก
“โอ้ ตัวร้อนนะเนี่ยะ ถึงว่าวันนี้ผมไม่เห็นคุณเดินกับเพื่อนคุณเลย เป็นอะไรมากรึเปล่าเมื่อวานที่ตากฝนใช่ไหมครับเนี่ยะ”คริสถามพร้อมกับค่อยๆจับตัวฉันและหยิบของที่ฉันถืออยู่ไปถือแทน
“นิดหน่อยนะ เมื่อวานแหละตากฝนจนได้เรื่องเลย”ฉันบอกกับคริสยิ้มๆ คริสยิ้มให้ฉันเล็กน้อยก่อนจะพาฉันไปจ่ายตังค์แล้วก็ค่อยๆพยุงฉันเดินออกมาจากร้านค้า
“แล้วนี้ พี่คุณไปไหนละ”
“พี่อ้นนะหรอ ไปมหาลัยนะ”ฉันบอก
“เชอรีน ผมถามอะไรอย่างนึงได้ไหม”คริสพูดหน้าเครียดจนฉันต้องมองอย่างสงสัย
“อะไรหรอ”
“ถึงแม้ว่าเราจะพึ่งรู้จักกันนะครับ แต่คุณไว้ใจผมพอที่จะเล่าเรื่องของคุณให้ฟังได้ไหม เมื่อวานผมเห็นคุณร้องไห้” คำพูดของคริสมันกระตุกอารมณ์ของฉัน ใช่สินะเมื่อคืนฉันร้องไห้ท่ามกลางสายฝนด้วยสินะ ร่างกายของฉันถึงได้มาป่วยอย่างนี้
“ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่หลงรักผู้ชายที่ไม่รู้ว่าเขารักฉันบ้างไหม”
“พี่อ้นใช่ไหมครับ”
“อืม”ฉันตอบรับเบาๆ ความรู้สึกของความปวดร้าวมันกำลังบีบหัวใจให้ฉันร้องไห้อีกครั้งหนึ่ง ทำไมฉันรู้สึกอ่อนแออย่างนี้นะ
“อย่าร้องไห้นะครับ ไปหาอะไรทานกันหน่อยไหม ไม่สบายอย่างนี้ผมมีร้านข้ามต้มร้านหนึ่งอร่อยนะ”คริสที่เห็นฉันเริ่มน้ำตาคลอรีบเปลี่ยนเรื่องแล้วช่วยฉันถือของก่อนจะจับมือฉันให้ตามเขาไปทันที ทำไมฉันถึงไม่มองคนอื่นนอกจากเขาคนนั้นบ้างนะ คนที่ทำดีมีกับฉันมากมายแต่ฉันกับเลืกที่จะรักเขา หรือเป็นเพียงแค่เขาพูดคำๆนั้นออกมาเมื่อคืนทำให้ฉันยังดันทุรังที่จะรักเขาต่อทั้งๆที่เขาอาจจะมีพี่แบมบี้เคียงข้างอยู่แล้ว ฉันยังจะรักเขาหรอ ฉันยังจะปล่อยให้หัวใจตัวเองรักผู้ชายที่มีเจ้าของหรือยังไงกันนะ เหลืออีกไม่กี่วันในช่วงเวลาที่ฉันต้องทำใจเพื่อให้ลืมผู้ชายคนนั้น ฉันจะต้องทำให้ได้ซิ ฉันต้องลืมคำพูดที่เขาพูดกับฉันเอาไว้ ฉันต้องเลิกรักผู้ชายที่ทำให้ฉันเจ็บปวดแทบปางตายให้ได้ซิ
“ถึงแล้วครับ”เสียงของคริสทำให้ฉันหลุดจากภวังค์ในห้วงความคิดของตัวเอง และเมื่อสังเกตเห็นคริสพาฉันมาถึงร้านข้ามต้มแห่งหนึ่งเรียบร้อยแล้ว
“ร้านนี้อร่อยนะ ไม่สบายอย่างเชอรีนน่าจะกินเยอะๆนะครับ”คริสบอกเสียงใสก่อนจะพาฉันนั่งลงพร้อมกับวางของที่ฉันซื้อมามากมายเอาไว้ข้างตัว
“ขอบคุณนะคริส”
“ขอบคุณเรื่องอะไรครับ”
“ขอบคุณที่ยายพยายามทำให้ฉันไม่ต้องคิดถึงเรื่องของเขา”
“ไม่เอาน่าเชอรีน เราเป็นเพื่อนกันนะถึงแม้ว่าจะรู้จักกันไม่นานก็เถอะแต่คุณก็คือเพื่อนของผมนะครับ”คริสบอกก่อนจะยิ้มสดใสมาให้ฉัน ฉันยิ้มตอบก่อนที่จะเริ่มลงมือสั่งอาหารมามากมาย
“กินเยอะๆเลยนะ วันนี้ผมมีเงินเยอะเดี๋ยวเลี้ยงเอง”
“จะเป็นเสี่ยหรอไง หะ 555”
“ใช่วันนี้เลี้ยงสาวๆได้บานเลย”คริสบอกขำๆก่อนที่เราสองคนจะคุยกันมากมายและหัวเราะกันจนฉันลืมความเจ็บปวดที่ตัวเองสร้างขึ้นมาได้ แต่มันคงเป้นช่วงแค่เวลาสั้นๆเท่านั้นที่ฉันจะลืมช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดไปได้ เพราะทันทีที่คริสเดินมาส่งฉันที่ห้อง ทุกคนที่นั่งรออยู่ก็มองฉันกับคริสด้วยแววตาโกรธจัด แต่สิ่งที่สะเทือนจิตใจของฉันมากที่สุดคือการที่พี่แบมบี้มานั่งเคียงข้างพี่อ้นอยู่ภายในห้อง
“ไปไหนมา”พี่ดิวที่เห็นฉันก็ถามขึ้นมาทันที
“ไปซื้อของมา”ฉันบอก คริสที่เดินตามมาทำท่าจะกลับแต่ฉันกลับจับมือคริสเอาไว้ทันที
“ทำไมหรอเชอรีน”คริสถามเสียงเบา จนดูเหมือนเราสองคนกระซิบกัน
“อยู่เป็นเพื่อนเรานะ เราไม่อยากร้องไห้คนเดียว”ฉันบอกเสียงสั่นพร้อมกับพยักเพยิดหน้าให้เขาดูว่าพี่แบมบี้กำลังนั่งเคียงข้างอยู่กับพี่อ้น คริสที่เห็นดังนั้นก็บีบมือฉันแน่นทันทีเหมือนเป็นการให้กำลังใจ
“แล้วทำไมถึงกลับมากับไอ้หมอนั้น”พี่ดิวถามเสียงเข้มพร้อมกับเดินมาหาฉันและคริส
“เชอรีนเจอคริส เราสองคนเลยไปกินข้าวด้วยกันมา”ฉันพูดเสียงเรียบ พี่ดิวมองหน้าฉันพร้อมกับดูมือของฉันที่จับกับคริสแน่นด้วยความงุนงง ก่อนที่พี่ดิวจะเหลือบมองไปยังข้างหลังที่ตอนนี้ พี่ตั้ม พี่อ้น พี่แบมบี้ และดีกำลังมองอยู่
“พัฒนาถึงขั้นจับมือและไปกินข้าวด้วยกันได้แล้วหรอ”เสียงของพี่อ้นถามขึ้นมาเสียงเรียบแต่น้ำเสียงนั้นช่างดูน่ากลัวและขนลุกไปในเวลาเดียว
“คะ”ฉันตอบกลับ พี่อ้นจ้องหน้าฉันพร้อมกับสลับจ้องมองมือของฉันที่กุมมือคริสแน่น ตอนนี้คริสคงรู้สึกว่าฉันกำลังกลัวเพราะคริสกระชับมือฉันแน่นมากขึ้นกว่าเดิมพร้อมกับบีบมันแน่นๆเพื่อบอกว่าอย่าพึ่งปล่อยน้ำตาออกมา
“ไอ้ดิวไม่นึกเลยนะ น้องเอ็งจะเป็นอย่างนี้ หึ นึกว่าไม่สบายก็จะกลับมาดูแลที่ไหนได้ลงไปกินข้าวกับผู้ชายซะแล้ว”
จึ๊ก
ถ้อยคำนั้นทำให้ฉันแทบทรุดน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้แทบจะไหลลงมาถ้อยคำที่บาดหัวใจมันช่างเสียดสีจนฉันอยากจะปล่อยน้ำตาออกมา
“ไอ้อ้น!!”พี่ตั้มปรามขึ้นมาทันที
..................................................................................................................................................................................................................
อ้ากกพี่อ้นเราเป็นอะไรเนี่ยะ พี่คริสเริ่มมาแล้วววว อ้ากกต่อไปปปเซอร์ไพร์แน่ 555
....................................................................................................................................................................................................................
ฉันจ้องหน้าพี่อ้นนิ่ง แต่ตอนนี้หัวใจของฉันแทบเหลวแหลกลงไปเรียบร้อย ดีมองหน้าฉันด้วยความสงสารปนเห็นใจที่เห็นว่าผู้ชายที่ฉันรักกำลังพูดจาเสียดแทงจิตใจของฉัน
“หึ คงกินอิ่มหนำสำราญกันมาแล้วซินะ คงไม่ต้องทำให้พวกพี่กินแล้วแหละ”พี่อ้นยังคงพูดออกมาพร้อมกับแววตาที่ดูแข็งกร้าวและตัดพ้อจนฉันรู้สึกสับสนกับแววตาและการกระทำของเขาไปหมด
“พี่อ้น!!”ดีพูดขัดขึ้นอีกคน ฉันยังคงจ้องหน้าพี่อ้นนิ่งน้ำตาคลอออกมาอย่างห้ามไม่ได้อีกต่อไป พี่ดิวที่เห็นสีหน้าฉันก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
“ถ้าพี่อยากจะกิน เชอรีนจะทำให้ค่ะ ถึงแม้ว่าเชอรีนจะอิ่มจากการไปดื่มด่ำกับคริสแล้วแต่เชอรีนก็ยังมีจิตสำนึกที่จะทำให้พี่กิน”ฉันพูดประชดออกไปด้วยแววตาแข็งกร้าว พี่อ้นที่ได้ยินฉันพูดดังนั้นก็ถึงกับจ้องหน้าฉันเขม็ง
“เชอรีน!!”
“รีน!!”
คอนนี้ทุกคนเรียกชื่อฉันออกมาเสียงเดียวเมื่อเห็นว่าฉันพูดอะไรออกไป คริสที่เป็นหนึ่งในนั้นหันมามองหน้าฉันนิ่ง พร้อมกับบีบมือฉันเพื่อเป็นการถามว่าคุณทำแบบนั้นไปเพื่ออะไร
“ก็ดีที่เธอยังมีจิตสำนึกที่จะทำบ้าง”
“คะ ยังไงเชอรีนก็มาที่นี้ในฐานะที่ต้องดูแลพี่อยู่แล้ว จะดูผู้หญิงของพี่และเพื่อนพี่อีกจะเป็นอะไร อีกอย่างเชอรีนก็มีความสุขกับผู้ชายของเชอรีนแล้ว เชอรีนก็อยากให้พี่มีความสุขกับผู้หญิงของพี่เหมือนกัน”
“เชอรีน !!!”
“ไอ้รีน!!”
“รีน”
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่หลายเสียงเรียกชื่อฉันประสานออกมา ฉันรู้สึกเหมือนคำพูดของตัวเองบีบรัดแน่นหน้าอกไปจนหมด ไม่รู้ว่าตอนนี้หัวใจของตัวเองกำลังร้องไห้มากมายเท่าไหร่ แต่ตอนนี้แค่รู้สึกว่าตัวเองอยากจะนอนลงไปตายตรงนั้นให้ได้ซะทีเดียว นี้ฉันกำลังประชดเขาให้ได้อะไรขึ้นมานะเชอรีน
“ก็ดี ช่วย กรุณา ทำอาหารให้ผู้หญิงของฉันทานด้วย”พี่อ้นพูดเสียงแข็ง ก่อนจะลุกขึ้นแล้วก็เดินออกจากห้องไปทันที
ปัง
“.....”
“......”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันที ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจ้ะองไห้ออกมา แต่ก็ต้องกลั้นมันเอาไว้ คริสมองหน้าฉันด้วยความงง และรู้สึกสงสารฉันไปในตัว ฉันมองหน้าดีที่ตอนนี้หน้าบุญไม่รับจริงๆกำลังจ้องฉันเหมือนว่าเธอทำอะไรของเธอเนี่ยะ
“เป็นบ้าอะไร ไปประชดมันทำไม”พี่ดิวถามขึ้นมาทันทีพร้อมกับจ้องหน้าฉัน
“เชอรีนไม่ได้ประชด”ฉันบอกเสียงสั่น
“นั้นเรียกว่าไม่ได้ประชดหรือไง”พี่ดิวถามเสียงแข็ง ฉันไม่มองหน้าพี่ตัวเองอีกต่อไปแต่กลับจูงมือคริสเข้าห้องครัวไปทันที
“เชอรีน”ดีวิ่งตามฉันมาก่อนจะมาดักหน้าฉันเอาไว้
“ฮึก”ฉันกลั้นน้ำตาอีกไม่ไหวต่อไป มันเริ่มไหลออกมาช้าๆ
“ขอโทษนะคะ ขอตัวเพื่อนฉันแปปนะคะ”ดีบอกคริสเบาๆ คริสที่เห็นดังนั้นก็ปล่อยมือฉัน ส่วนดีก็ดึงฉันเข้ามากอดทันที
“ฮึก”
“แกร้องไห้จนได้ ไปประชดพี่เขาทำไมถ้าจะร้องไห้ขนาดนี้”
“ฮึก”
“เชอรีน ผมไม่นึกว่าคุณจะทำอย่างนี้ ทำไมคุณไม่บอกเขาคนนั้นไป”คริสพูดขึ้นมาบ้าง
“คุณรู้หรอคะ”ดีถามคริส
“ครับ เธอร้องไห้ให้ผมเห็นสองรอบแล้ว ผมก็เลยเดาได้ว่าเธอเป็นอะไร”คริสตอบกลับมา ดีที่เห็นดังนั้นก็พยักหน้าตอบรับพร้อมกับกอดฉันเอาไว้แน่น
“อย่าร้องไห้นะเชอรีน”
“ฮึก ฉันไม่ได้อยากประชดเขา แต่เขาทำฉันก่อน”ฉันร้องไห้ออกมาอย่างอดกลั้นอีกไว้ไม่ได้ ตอนนี้ฉันไม่กลัวใครเข้ามาเห็นอีกแล้ว ต่อให้พี่ดิวรู้หรือว่าพี่ตั้มรู้ว่าฉันรักเขา ฉันก็ไม่สนอีกแล้วเพราะฉันจะต้องร้องไห้ให้ครั้งนี้เป็นสุดท้าย ต้องเป็นครั้งสุดท้ายใช่ไหมฮึก
“เชอรีน”
“ฮึก ฮึก”ไม่รู้ว่าน้ำตาที่ไหลออกมามันพลั่งพรูออกมาเท่าไหร่รู้แต่ว่าตอนนี้ทุกหยดน้ำตาของฉันมันกำลังซึมเข้าสู่จิตใจของฉันให้มันปวดร้าวมากขึ้นมากขึ้นจนฉันอยากจะทรุดกายตัวเองลงไว้ตรงนั้น
“หยุดร้องไห้เถอะนะเพื่อน เดี๋ยวพวกพี่เขาจะสงสัยเอา”ดีบอกพร้อมกับลูบหลังฉันไปมา
“ฮึก ฉันไม่สนอีกแล้ว ใครจะสงสัยก็ช่างเขาฉันจะร้องไห้ให้เขา ฮึก เป็นครั้งสุดท้ายฮึก”ฉันบอกกับดีเสียงสั่น ถึงปากของฉันจะพูดไปอย่างนั้น แต่ตอนนี้หัวใจของฉันมันต้านการกระทำที่ฉันอยากจะทำเหลือเกิน ฉันยังอยากที่จะรักเขามากมาย แต่ฉันไม่อยากที่จะเจ็บอีกต่อไปแล้ว ไม่อยากอีกต่อไปแล้ว
“แก !! พูดว่าไงนะ”
“ฮึก ฉันจะต้องเลิกร้องไห้ให้เขาได้แล้ว ฉันเหนื่อยเกินไปแล้ว เหนื่อยมากเหลือเกิน”ฉันพูดพร้อมกับทรุดลงช้าๆ คริสวิ่งเข้ามาประคองตัวฉันทันที
“เชอรีนไหวไหมครับ”
“ฮึก”
“ตัวร้อนแล้วรีน”ดีบอก ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหมดลมหายใจ ฉันรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะปิดตาลงด้วยความปวดหัวที่มันรุมเร้ามากขึ้น ฉันอยากจะหลับตาตรงนั้นไปเลยไม่อยากตื่นขึ้นมาพบกับความปวดร้าวที่ฉันจะต้องเผชิญอยู่มากมาย
“ฮึก ฉันไม่เป็นอะไร ไม่ได้เป็นอะไรทั้งสิ้น”ฉันตัดสินใจรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีอยู่น้อยนิดลุกขึ้นยืน แต่สุดท้ายร่างกายของฉันมันก็ต้านความปวดร้าวทั้งตัวและก็หัวใจของฉันไม่ไหวอีกต่อไป
พรึบ
“กริ๊ด เชอรีน”
“เชอรีน”
สติของฉันดับวูบทันที ไม่รู้ว่าฉันรู้สึกยังไงอีกต่อไป แต่ตอนนี้ฉันอยากนอนอยากหลับไปเลยไม่อยากตื่นขึ้นมาเจอกับเขาอีกอยากให้เขาหายออกไปจากชีวิตฉัน ผู้ชายใจร้ายที่ดูถูกเหยียดยามฉัน
..........................................
“เวรเอ๋ย” เสียงสถบดังลั่นพร้อมกับเสียงวิ่งเข้ามาในห้องครัวอย่างรวดเร็ว
“เชอรีนเป็นอะไรดี”เสียงของดิวถามสาวผู้เป็นที่รักเสียงดังเมื่อเห็นร่างของน้องสาวตัวเองล้มลงและอยู่ในอ้อมกอดของสาวน้อย
“ท่าทางจะไข้กินคะ อยู่ดีๆก็ทรุดลงไปเลย”ดีตอบด้วยอาการกลัวตอนนี้สาวน้อยร่างเล็กที่กอดเพื่อนอยู่มีสีหน้าตกใจกลัวมาก
“ถอยไปไอ้ฝรั่ง”เสียงตวาดดังลั่นของหนุ่มผิวเข้มดังขึ้น จนทุกคนตกใจ
“เฮ้ยใจเย็นๆไอ้อ้น”ตั้มปรามเพื่อนตัวเองที่ตอนนี้รู้สึกหัวเสีย และอารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด
“นี้ครับพี่” คริสรีบถอยห่างออกมาทันที อ้นที่เห็นว่าคริสถอยออกมาแล้วเขาก็รีบช้อนร่างของสาวน้อยที่นอนสลบอยู่ขึ้นมาในอ้อมแขนทันที
“ไอ้อ้น อุ้มน้องข้าดีๆนะโว้ย”
“เออ”อ้นตอบเสียงดังก่อนจะเดินออกนอกห้องไปอย่างเร่งรีบทันที ตอนนี้เขารู้สึกทั้งโกรธและเป็นห่วงสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของเขามากเหลือเกิน เมื่อกี้ก็ยั่วอารมณ์ให้เขาแทบเป็นบ้าตอนนี้ก็ทำให้เขาเป็นห่วงแทบขาดใจ เขาไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ทำอะไรไว้กับเขาเธอถึงได้มีอิทธิพลต่อเขามากเหลือเกิน อ้นวิ่งพาเชอรีนขึ้นรถทันทีเมื่อพบว่าตัวเธอกำลังร้อนจี๋ และรีบขับรถแล่นสู่โรงพยาบาลด้วยแววตากังวล
“เฮ้อ ไอ้อ้นคงดูแลได้อย่าคิดมากไอ้ดิว”ตั้มพูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของเพื่อน
“เออ รู้ว่ามันดูแลได้ แต่ข้าทนไม่ไหวแล้วว่ะ ต่างคนต่างลองใจกันอยู่นั้น รีนร้องไห้ใช่ไหมดี”ดิวถามสาวข้างกายขึ้น
“คะ ร้องหนักด้วยนะคราวนี้ พี่อ้นก็พูดประชดแรงเกินไปแล้ว”ดีตอบพร้อมกับมองหน้าทุกคนอย่างหนักใจ
“เอ่อ ขอโทษนะครับ ตกลงคือพี่เขาชอบเชอรีนใช่ไหมครับ”คริสถามขึ้นมาทันทีด้วยความงุนงงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ใช่ !!! ดังนั้นเอ็งห้ามมายุ่งกับน้องสาวฉัน” ดิวพูดเสียงดังพร้อมกับเดินออกจากห้องตามอ้นไปทันที
“คริสค่ะ คุณรู้ความจริงแล้วอย่าพึ่งบอกเชอรีนนะคะ”ดีรีบบอกคริสทันที
“ทำไมละครับ เชอรีนร้องไห้บ่อยมากเลยนะครับ ทำไมไม่ให้เธอรู้ว่าผู้ชายที่เธอรักก็รักเธอเหมือนกัน”คริสถามขึ้นอีกครั้ง
“ลูกพี่ลูกน้องฉันเขาอยากให้ตัวเอง มีการมีงานที่ดีก่อนนะคะ อีกอย่างน้องรีนเป็นน้องสาวเพื่อนด้วย ดิวเขาก็หวงเป็นธรรมดาอ้นเลยต้องวัดใจกับดิวซักหน่อย”แบมบี้ที่ยืนเงียบอยู่นานเป็นคนตอบขึ้นมา คริสพยักหน้าลงเล็กน้อยเหมือนเข้าใจ
“ดังนั้น คริสอย่าพึงบอกเรื่องนี้กับรีนนะคะ”ดีกำชับคริสเป็นครั้งสุดท้าย คริสพยักหน้าตอบ ก่อนที่ทุกคนจะเดินตามดิวออกไปเพื่อไปหาเชอรีนที่โรงพยาบาล
.......................................................................................................................................................................
อิอิ ความลับเผยแบ้ววววววว ตอนหน้าเข้มข้นขึ้น ซึ้งขึ้นแน่นอนเพราะจะจบแล้วจ้าาา ต่อไปใครรอ นางฟ้าของหัวใจ จะมาแล้
.............................................................................................................................................................................................................................ฉันรู้สึกว่าตัวเองเหมือนมีอะไรมาทับอยู่บนหัวเลยตอนนี้ มันหนักมากจนฉันไม่อยากที่จะลุกขึ้นมา มันปวดร้าวไปหมดทั้งตัว ฉันค่อยๆลืมตาช้าๆแล้วก็พบกับเพดานห้องสีขาวสะอาดตาแถมยังมีกลิ่นยาลอยมาแตะจมูก โดยไม่ต้องสงสัยฉันอยู่ที่โรงพยาบาลนั้นเอง
“กินหน่อยไหมอ้น”เสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้ฉันพยามยามมอง เพราะว่าตัวของฉันไม่สามารถขยับได้ก็เลยได้แต่มองอย่างเดียว และสิ่งที่ฉันเห็น มันทำให้ฉันอยากจะกลับไปหลับตาลงเหมือนเดิม ไม่อยากเห็นภาพพวกนี้เลย
“ไม่เอาแล้วแบมบี้ อิ่มแล้วละ”
“นี่นายอิ่มหรอ ฉันเห็นนายไม่ได้กินอะไรเลยนะ”
“เอาน่า”
“นี่ !! ฉันเป็นห่วงนะ เป็นเด็กไปได้ กินเดี๋ยวนี้เลย”
เสียงของผู้หญิงและผู้ชายสองคนที่กำลังจิกัดกันเล็กๆอยู่นั้น ทำให้ฉันอยากจะปิดหูไม่ให้ได้ยินเสียงนั้น และอยากจะหลับตาลงไปเลย น้ำตาของฉันที่ไม่รู้ว่ามันคลอออกมาเมื่อไหร่กำลังเอ่ออกมา จนฉันต้องหันกลับมาอีกทางเพื่อให้น้ำตามันไหลออกมาช้าๆ
“กินเร็ว เดี๋ยวน้องรีนตื่นมานายจะได้มีแรงดูแล”
“ไม่เอา อิ่มแล้ว”
“นี่ นายกรกฏ กินเข้าไป”
“แบมบี้ มันเลอะหมดแล้ว”
“555”
เสียงพวกนั้นทำให้ฉันปล่อยน้ำตาให้มันออกมาช้าๆอย่างปวดหัวใจตัวเอง มันรู้สึกร้าวไปทั้งตัวและหัวใจของฉันเลยในตอนนี้ ใครก็ได้เอาภาพพวกนี้ออกไปจากฉันที
“นี่ พวกแกสองคนจะสวีตกันอีกนานไหม น้องฉันเป็นไงบ้างเนี่ยะ”เสียงของผู้มาเยือนใหม่ทำให้ฉันต้องรีบปาดน้ำตาขึ้นมาทันที
“สวีตบ้านแกซิดิว ตายกันพอดี”
“555 แบมบี้จัดการมันเลย”
“พอเลยไอ้สองคนนี้นิ รีนเป็นไงบ้างว่ะอ้น”
“ไปดูดิ มัวแต่ทะเลาะอยู่กับคนแถวนี้เลยไม่ได้ดูเลย”
“เองนิ เดี๋ยวปั๊ดไม่ให้เลย”
“ทำได้ปะหละ ว่าไม่ให้อ่ะ”
“ไอ้อ้น เพื่อนเวรเอ๋ย”
“55555”
ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาคุยเรื่องอะไรกันรู้แต่ว่าตอนนี้ฉันปวดหัวและอยากที่จะนอนเต็มทนแล้ว ปวดมาจริงๆตอนนี้ทำไมมันหนักสมองฉันอย่างนี้นะ
“รีน”เสียงของพี่ดิวดังขึ้นทำให้ฉันหันไปมอง ด้วยความงัวเงีย
“พี่”
“เป็นไงบ้าง หน้าซีดเลยไอ้แสบ”
“ไม่เป็นไรแล้ว”ฉันบอกก่อนจะค่อยๆหลับตาลงช้าๆ
“ตัวยังร้อนอยู่เลย ไหวไหมเนี่ยะ”
“ไหว”ฉันบอกเบาๆทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาขึ้นมา มันลืมไม่ขึ้นอีกแล้ว
“นั้นพักผ่อนเยอะๆนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มาเยี่ยม พี่ให้อ้นมันดูแลนะ”
“อืม”ฉันบอกคำสั้นๆ เพราะตอนนี้ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้วเพราะมันรู้สึกปวดหัวไปหมด
“พี่ไปแล้วนะ “พี่ดิวบอกสั้นๆก่อนจะลูบหัวฉันเบาๆ
“ฝากน้องด้วยนะอ้น”
“อืม กลับบ้านดีๆนะเพื่อน ส่งไอ้ตั้มให้ถึงบ้านด้วยละ เดี๋ยวมันไปเป็นเงาะหานางรจนาอยู่”
“ไอ้อ้น”
“555 กลับบ้านดีๆนะเพื่อน”
เสียงโวกเวกโวยวายเวียงดังหายไปตอนนี้คงอยู่กันแค่สามคนซินะ ฉันหลับตาช้าๆเพื่อพยายามตัวเองไม่ให้ได้ยินเสียงของสองคนที่ฉันไม่อยากได้ยินเลยในตอนนี้
“น้องเชอรีน นอนพักเยอะๆนะคะ”เสียงของพี่แบมบี้พูดขึ้นพร้อมกับการเคลื่อนไหวของผ้าห่มที่ขัยมาห่มตัวฉันมากขึ้น
“จะกลับเลยไหม”พี่อ้นถามขึ้น
“จะไล่หรือไง”
“เปล่า จะอยู่ก็ได้ไม่ได้ว่า”
“ชิส์ ไม่อยู่หรอกเดี๋ยวคนแถวนี้อดทำอะไรบางอย่าง”
“อะไรของเธอ”
เสียงของคนสองคนยังดังเถียงกันฉันหันหลังหนีเสียงนั้น ไม่รู้เมื่อไหร่ที่น้ำตาของฉันมันไหลออกมาอีกแล้ว มันไหลออกมาช้าๆ ให้ตายซิเมื่อวานฉันยังรู้สึกว่าพี่อ้นอาจมีใจให้ฉันแต่ตอนนี้ความคิดนั้นมันถูกแทนที่ด้วยเสียงของสองคนนั้นหมดเลย เสียงของคนที่รักกันกำลังหยอกล้อเล่นกัน
ก๊อก ก๊อก
ยังไม่ทันที่ฉันจะได้หลับตาลง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“สวัสดีครับ เชอรีนนอนอยู่หรอครับ”เสียงของคริสนั้นเอง ฉันลืมตาขึ้นทันทีพร้อมกับปาดน้ำตาทิ้งอีกครั้งแล้วหันกลับไปมองเพื่อนตัวเองทันที
“คริส”ฉันเรียกคริสพร้อมกับลุกขึ้นนั่งทันที
“รีบขนาดนั้นเลยหรือไง ระวังหน่อยซิ”พี่อ้นพูดเสียงแข็งพร้อมกับมาประคองฉัน
“เชอรีน ไม่เป็นอะไรค่ะ ปล่อยด้วยค่ะ”ฉันบอกพร้อมกับมองหน้าคริสทันที ไม่อยากที่จะมองหน้าเขาเลย
“เฮ้อ “พี่อ้นถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โซฟาตามด้วยพี่แบมบี้ ส่วนคริสเดินมาหาฉัน
“เป็นไงบ้าง”คริสทักขึ้น
“ดีแล้ว”ฉันตอบ
“รู้ไหมตอนที่ล้มลงไปตกใจมากเลย”
“ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง”
“แค่ก ๆ”
ในขณะที่ฉันคุยกับคริสอยู่นั้นเสียงไอค่อกแค่กก็ดังขึ้นมา ฉันกับคริสหันไปมองทันทีก็เห็นว่าเป็นพี่อ้นนั้นเอง
“พี่อ้นหมอว่าไงบ้างครับ”คริสถามขึ้น
“ให้น้ำเกลือขวดเดียวแล้วนอนพักสองวันก็กลับบ้านได้”พี่อ้นตอบกลับมาอย่างไม่ใส่ใจ
“ครับ เชอรีนวันนี้นั้นเรามารับไหม”
“แค่ก ๆ”
แล้วอาการไอก็ดังขึ้นมาอีกรอบ ฉันหันไปมองอีกรอบก็เห็นพี่อ้นทำหน้าไม่ใส่ใจ ส่วนพี่แบมบี้นั่งเหมือนกลั้นขำอยู่
“พี่เป็นอะไรมากเปล่าครับ ไปหาหมอไหมเดี๋ยวผมดูแลเชอรีนให้”
“ไม่ต้อง !!!”
คริสพูดจบพี่อ้นก็สวนขึ้นมาทันที คริสหันมามองหน้าฉันก่อนจะยักคิ้วให้อย่างแปลกๆ ก่อนจะหันไปคุยกับพี่อ้นต่อ
“ไม่เป็นไรครับถ้าพี่เกรงใจ ยังไงผมกับเชอรีนก็สนิทกันอยู่แล้ว”คริสว่าพร้อมกับจับมือฉันเอาไว้ ฉันมองด้วยอาการงงสุดขีด
“บอกไม่ต้องก็ไม่ต้องไง ผู้หญิงคนเดียวฉันดูแลได้”พี่อ้นพูดเสียงแข็งพร้อมกับเดินมาดึงมือฉันกับคริสออก พี่แบมบี้ที่ดูตื่นๆตอนแรกก็หัวเราะออกมาเบาๆ ฉันมองทั้งหมดด้วยอาการงงและอึนสุดๆ
“อ๋อครับ นั้นผมให้พี่ ดูแล ‘ผู้หญิง’ ของพี่ดีกว่า ผมกลับก่อนละกันนะครับ”คริสบอกออกมาพร้อมกับส่งยิ้มแปลกๆให้ฉันก่อนจะเดินเข้ามาหาฉันผ่านหน้าพี่อ้นมาแล้วก็
จุ๊บ
“เราไปแล้วนะเชอรีน” คริสบอกพร้อมกับจูบหัวฉันเบาๆ ฉันที่ถูกจุ๊บไปนั้นก็ยังคงอึ้งกับการกระทำของเพื่อนตัวเองอยู่
“อืม”ฉันขานรับเบาๆพร้อมกับมองตามคริสที่ยักคิ้วให้พี่อ้นหนึ่งทีก่อนเดินออกจากห้องไป
“เฮ้อ”พี่อ้นถอนหายใจออกมาเสียงดังก่อนจะมองหน้าฉันนิ่ง ฉันที่เห็นดังนั้นก็หันหลังล้มลงตัวนอนไม่สนใจพี่เขาทันที
“หึ ท่าทางจะมีเรื่องแล้วแหะ เรากลับบ้านก่อนละกัน”
“เราไปส่ง”
“ไม่ต้องหรอกอ้น เคลียร์ตรงนี้ดีกว่าไหม”
“ไม่เห็นมีอะไร เราไปส่ง”
“อืมก็ได้”
แล้วเสียงของคนสองคนก็ดังหายไปฉันลุกขึ้นมาช้าๆ ก่อนจะมองไปยังหน้าประตู คำพูดของพี่แบมบี้เมื่อกี้มันแปลกๆยังไงไม่รู้ มีเรื่องหรอเรื่องอะไรกันอีกละ แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกเจ็บๆในหน้าอกจัง มันจิ๊ดนะที่เห็นพี่อ้นไปส่งพี่แบมบี้อย่างนั้น แต่ฉันไม่มีสิทธิ์ไปหึงพี่เขาซักหน่อย
“อ้าก เชอรีนบ้าเอ๋ย เธอไม่มีสิทธิ์นะ”ฉันบ่นกับตัวเองก่อนจะล้มลงตัวนอนอย่างเบื่อหนาย เมื่อไหร่ฉันจะเลิกคิดฟุ้งซ่านเรื่องของพี่เขาซักทีเนี่ยะ ฉันจะได้เลิกรักเขาซักทีไม่อยากเจ็บอย่างนี้อีกแล้ว
ปึง
เสียงปิดประตูดังขึ้นฉันกระเด้งตัวขึ้นมาทันที
“ไม่นอนพักหรือไง”พี่อ้นถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นฉันลุกขึ้นมา
“นอนค่ะ แต่นอนไม่หลับ”ฉันบอกไปตามความจริงก็คนมันนอนไม่หลับนิหน่า
“อืม อยากได้อะไรไหมพี่จะไปเอาให้”
“ไม่คะ”
“....”
“.....”
และเราสองคนก็เข้าสู่ความเงียบ
“พี่มีเรื่องอยากถาม”
พี่อ้นทำลายความเงียบขึ้นมา ฉันมองหน้าพี่อ้น
“อะไรคะ”
“พี่ไม่รู้นะว่าจะล่วงเกินไปรึเปล่า เชอรีนกับไอ้ฝรั่งนั้นเป็นอะไรกัน”
“คริสนะหรอคะ”
“ใช่”พี่อ้นพูดเสียงเย็นจนฉันรู้สึกขนลุกไปหมด
“เราเป็นเพื่อนกันคะ”ฉันตอบไปตามความจริง พี่อ้นมองฉันทันทีก่อนที่คิ้วของพี่เขาขมวดเข้าหากัน
“เพื่อน ?”
“คะ”
“หึ เหมือนเพื่อนกันมาเลยนะ “
“ทำไมละคะ”
“ก็ไม่ทำไมหรอกแต่ดูจากที่มันจับมือถือแขนเชอรีนแล้ว คงมากกว่าเพื่อน”พี่อ้นพูดพร้อมกับแค่นหัวเราะออกมาฉันรู้สึกหน้าตึงขึ้นมาทันที
“แค่นั้นเพื่อนก็ทำได้คะ”
“จับมือถือแขนอ่ะนะ นั้นเรียกว่าเพื่อนทำกันหรอไงแล้วเมื่อกี้อีกมันจูบหัวเธอ นั้นเขาเรียกว่าเพื่อนหรือไง”พี่อ้นพูดเสียงดังขึ้นมาจนฉันตกใจ ถึงกับผงะทันที
“แล้วมันยังไงคะพี่ พี่ก็เห็นว่าคริสเขาเป็นฝรั่งเรื่องอย่างนั้นมันก็ธรรมดา”
“นั้นเรื่องที่เธอแอบไปไหน มาไหนกันสองคนแอบไปทำอะไรกันมันก็ธรรมดาอย่างนั้นหรอ”
ฉ่า
สติฉันแทบขาดพรึงเมื่อพี่อ้นพ่นคำพูดพวกนั้นออกมา ฉันจ้องหน้าพี่อ้นนิ่ง ส่วนพี่อ้นก็เดินเข้ามาประชิดตัวฉันทันที
“พี่คิดว่าคริสกับเชอรีนไปทำอะไรกันหรอคะ”
“แล้วอะไรที่พวกเธอไปทำละ รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองไม่สบายยังจะดันด่นไปหามันอีก”
“พี่อ้น !!!”
คำพูดของพี่อ้นทำให้ฉันแทบอยากจะตายไปตรงนั้นคำพูดที่เสียดแทงจิตใจฉัน จนฉันรู้สึกว่าน้ำตาตัวเองกำลังจะไหลออกมา
“พี่พูดความจริงใช่ไหม”
“สมองพี่คิดได้แต่อย่างนั้นหรือไง สมองพี่คิดได้แค่นั้นหรอ”ฉันเถียงกลับไป พี่อ้นชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าน้ำตาของแนมันเริ่มไหลออกมา
“แล้วที่พี่คิดมันใช่ไหมละ”
“พี่มันโง่ โง่มากเลยหรือไง ถึงดูอะไรไม่ออกเลย พี่บอกว่าเชอรีนไปกับคริสแล้วพี่กับพี่แบมบี้ละที่จู๋จี๋สวีตกันไม่อายฟ้าอายดินเมื่อกี้หรือก่อนหน้านี้ พี่ก็ทำได้ทำไมเชอรีนทำไม่ได้ เราสองคนอายุห่างกันแค่สองปีเท่านั้นนะคะ”
“เชอรีน !!”
“เชอรีนโตแล้ว เชอรีนจะทำอะไรกับคริสก็ได้ พี่จะมายุ่งยากทำไม”
“เชอรีน !!”
“แต่เชอรีนอยากจะบอกพี่เลยพี่ มันโง่ โง่ที่สุด ฮึก” ฉันปล่อยน้ำตาออกมาทันที พี่อ้นตกใจมากขึ้นกว่าเดิมฉันร้องไห้หนักขึ้น
“เชอรีน”
“เชอรีนผิดหรอ เชอรีนผิดหรือไงที่เชอรีนอยากจะลืมพี่ ฮึก เชอรีนแค่ต้องการใครซํกคนมาแทนที่พี่”ฉันไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปแต่ความน้อยใจ ทำให้ฉันพูดทุกสิ่งทุกอย่างในใจของฉันจนหมดพี่อ้น ตกใจไม่น้อยมองหน้าฉันด้วยความปวดร้าวทันที
“ฮึก พี่ไม่รู้เลยหรอ ว่าเชอรีนชอบใครรักใคร พี่ไม่รู้เลยหรอไง ฮึก พี่อยากยัดเยียดเชอรีนให้กับคริสมากเลยหรอ”
“....”
“รังเกียจผู้หญิงคนนี้มาเลยหรอ”
“มัน ไม่”
“ฮึก พี่อยากรู้ใช่ไหมว่าเชอรีนรักใคร เชอรีนมันรักพี่ไง รักมาด้วยรักโดยที่ไม่รู้ว่าพี่จะมาสนใจคนนี้ไหม พี่เฉยชามาตลอดพี่รู้ไหมว่ามันทำให้เชอรีนเจ็บ ฮึก”
“เชอรีน”
“ฮึก แต่ไม่ต้องกลัวนะพี่อ้น ถ้าหมดภารกิจของเชอรีนเมื่อไหร่ เชอรีนจะไปให้ไกลจากพี่ แล้วเชอรีนก็จะเลิกรักผู้ชายอย่างพี่ให้ได้ ฮึก “
“เชอรีน”
“ฮึก พอใจแล้วใช่ไหม พี่จะได้ไม่ต้องมาหนักใจ ฮึก แล้วพี่ก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว เพราะต่อไปเชอรีนจะไม่ยุ่งกับพี่ เชอรีนจะเริ่มชีวิตใหม่ ฮึก”
“เชอรีน”
“ฮึก ออกไปก่อนได้ไหม ออกไปก่อนได้ไหม!!”ฉันไม่รู้ว่าตัวเองพูดอะไรออกไปบ้างแต่ตอนนี้หัวใจฉันรู้สึกเจ็บมากมายและตอนนี้หัวของฉันก็แทบระเบิดออกมาในที่สุด
“เชอรีน”
“ออกไปก่อนได้ไหม เชอรีนปวดหัว!!”ฉันกรีดร้องออกไปพี่อ้นตกใจไม่น้อย
“เชอรีน”
“ฮึก กริ๊ด ปวดหัว โอ๊ย”อาการป่วยของฉันทำพิษขึ้นมาทันที ฉันแทบจะทรุดลงไปนอนกองตรงนั้นพี่อ้นที่เห็นเข้ามาประคองแนทนทีพร้อมกับเรียกหมออย่างรวดเร็ว
“หมอ พยาบาลใครอยู่แถวนี้ช่วยผมที”
“โอ๊ย”
“รีน ใจเย็นๆ”
“โอ๊ย ฮึก”
“รีน”
ปึง
“เกิดอะไรขึ้นค่ะ”
เสียงนั้นเป็นเสียงสุดท้ายที่ฉันฉันได้ยินก่อนที่สติฉันจะดับวูบไป
ผลงานอื่นๆ ของ momoya write ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ momoya write
ความคิดเห็น